เชื่อว่าเพื่อนหลายๆ คนน่าจะเคยบริจาคโลหิตกันมาบ้างแล้วอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการทำบุญอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากเลือดของเราสามารถนำไปช่วยชีวิตผู้ป่วยได้อย่างมากมาย ซึ่งนอกจากการบริจาคโลหิตแล้วยังมีอีกการบริจาคที่สำคัญเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ การบริจาคสเต็มเซลล์ เพื่อนๆ เคยบริจาคกันไปบ้างหรือยังเอ่ย ถ้ายังไม่เคย สามย่านมิตรทาวน์ มีข้อมูลเกี่ยวกับการบริจาคสเต็มเซลล์มาเล่าให้ฟัง เผื่อเพื่อนๆ คนไหนสนใจจะได้ไปบริจาคสเต็มเซลล์ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยเพิ่มเติม
ก่อนอื่นเราไปรู้จักกับสเต็มเซลล์กันก่อนเลย สเต็มเซลล์ คือ เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดที่สามารถเจริญไปเป็น เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ซึ่งในทางการแพทย์จะใช้สเต็มเซลล์เพื่อการรักษาด้วยวิธีการปลูกถ่าย เป็นทางเลือกหนึ่งของการรักษาผู้ป่วยด้วยโรคทางโลหิตให้หายขาดจากโรคได้ แต่การจะเป็นผู้บริจาคสเต็มเซลล์นั้นเป็นไปได้ยากด้วยข้อจำกัดที่ไม่สามารถหาผู้บริจาคสเต็มเซลล์ที่มีผลเนื้อเยื่อ HLA ตรงกันกับผู้ป่วย เพราะหากเป็นพี่น้องท้องเดียวกันจะมีโอกาสตรงกัน 1 ใน 4 จึงต้องใช้สเต็มเซลล์จากผู้ที่ไม่ใช่ญาติ ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อยมาก เพียง 1 ใน 10,000 เท่านั้น
ที่ผ่านมาศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ได้รับมอบหมายจากแพทยสภา จัดตั้ง “ธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตแห่งชาติ” เพื่อเร่งหาอาสาสมัครผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต หรือสเต็มเซลล์ ที่ไม่ใช่ญาติให้แก่ผู้ป่วย รวมทั้งผลิตภัณฑ์สเต็มเซลล์ที่ให้กับผู้ป่วย โดยได้มีการรณรงค์จัดหาอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์เพิ่มมากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้แก่ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอีกด้วย
จากข้อมูลของ สภากาชาดไทย ระบุว่า ในปัจจุบัน มีอาสาสมัครบริจาคสเต็มเซลล์ในประเทศไทยได้จำนวน 299,628 ราย แต่มีผู้ที่บริจาคได้จริงให้กับผู้ป่วย เพียงจำนวน 457 ราย และยังมีผู้ป่วยที่รอรับการปลูกถ่ายสเต็มเซลล์ จำนวน 2,407 ราย ซึ่งจะเป็นผู้ป่วยโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรัง โรคธาลัสซีเมีย โรคไขกระดูกฝ่อ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง เป็นต้น
หากเพื่อนๆ สนใจบริจาคสเต็มเซลล์ จะต้องมีคุณสมบัติคือ เป็นผู้บริจาคโลหิตอยู่แล้ว มีอายุระหว่าง 18-50 ปี มีน้ำหนักถึง 45 กิโลกรัม สุขภาพแข็งแรง และไม่มีโรคประจำตัวหรือโรคติดต่อต่างๆ
เพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ลองไปเป็นอาสามัครบริจาคสเต็มเซลล์กันดูนะคะ เพราะถ้าสเต็มเซลล์ของเราสามารถเข้าได้กับผู้ป่วยคนไหนสักคน ถือเป็นการทำบุญใหญ่เลยนะ ใครที่สุขภาพแข็งแรง แวะไปบริจาคเลือดแล้วก็อย่าลืมแวะไปสอบถามเจ้าหน้าที่ที่สภากาชาดไทยขอบริจาคสเต็มเซลล์เพิ่มเติมได้เลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : สภากาชาดไทย และ โรงพยาบาลจุฬากรณ์ สภากาชาดไทย
