แม้ว่าตอนนี้จะยังมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่คนส่วนใหญ่ก็ได้ออกมาใช้ชีวิตกันแบบจะเหมือนปกติแล้ว เพราะเริ่มปรับตัวและรู้จักวิธีการป้องกันไม่ให้ตัวเองติดเชื้อโรคกันได้ดีขึ้น หลายคนได้เดินทางออกไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ เพราะการท่องเที่ยวไม่ใช่แค่เรื่องการพักผ่อนเท่านั้น แต่การเดินทางท่องเที่ยวยังเป็นการสร้างประสบการณ์ และให้เราได้มีมุมมองหรือไอเดียใหม่ๆ ได้อีกด้วย ซึ่งเทรนด์การท่องเที่ยวที่ถูกพูดถึงกันมาก และเป็นเรื่องที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญต่อเนื่องมาหลายปี นั่นก็คือ เทรนด์การเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ที่คำนึงถึงผลกระทบกับสภาพแวดล้อมและสังคมมากขึ้นนั่นเอง

จากแนวโน้มที่เกิดขึ้นดังกล่าว วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ มีข้อมูลอินไซต์ รายงานการเดินทางท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนประจำปี 2565 ของ Booking.com มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆ คนไหนที่กำลังทำงานหรือทำธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวจะได้เห็นแนวโน้มความต้องการและมุมมองของนักท่องเที่ยวว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง ส่วนจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.นักท่องเที่ยวไทยพร้อมเที่ยวแบบยั่งยืน
โดยนักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวที่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น ซึ่งจำนวนของผู้ที่ต้องการเดินทางอย่างยั่งยืนในปีนี้มีเพิ่มขึ้นถึง 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสัดส่วน 75% ระบุว่าข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศนั้น ส่งผลให้พวกเขาตัดสินใจเลือกการเดินทางอย่างยั่งยืนมากขึ้น

2.มองหาที่พักอย่างยั่งยืนมากขึ้น
เรื่องของที่พักอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวในปีนี้ก็ให้ความสำคัญด้วย โดย 64% ของนักเดินทางชาวไทยยืนยันว่า เคยเห็นที่พักรักษ์โลก หรือที่พักที่มีแนวทางปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนบนเว็บไซต์ออนไลน์ และสัดส่วน 73% มีความตั้งใจมองหาข้อมูลที่พักที่มีความยั่งยืน ซึ่งเหตุผลสำคัญที่นักท่องเที่ยวเลือกเข้าพักที่รักษ์โลก ในช่วงปีที่ผ่านมาก็เพราะเหตุผลสำคัญ คือ ช่วยเพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นท้องถิ่นมากขึ้น และเชื่อว่าที่พักแบบรักษ์โลกมีแนวทางปฏิบัติต่อชุมชนโดยรอบดีกว่า ซึ่งนักท่องเที่ยวในปีนี้มากถึง 95% ตั้งใจว่าจะเข้าพักในที่พักแบบยั่งยืนอย่างน้อย 1 ครั้ง
3.เลือกไปเมืองรอง-เดินทางนอกฤดูท่องเที่ยว
ในปีนี้นักท่องเที่ยวไม่อยากไปเที่ยวสถานที่มีคนพลุกพล่าน หรือมีคนเที่ยวเยอะเกินไป ทำให้เลือกที่จะไปแหล่งท่องเที่ยวที่คนนิยมน้อย หรือแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง รวมถึงการไปเที่ยวนอกฤดูกาลท่องเที่ยว เพื่อลดปัญหาการเจอกับคนเยอะๆ

4.เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมและชุมชนท้องถิ่น
ปีนี้นักท่องเที่ยวชาวไทยต้องการทำแหล่งท่องเที่ยวที่ไปนั้น มีสภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม หรือก็คือ มีความต้องการช่วยฟื้นฟูสังคมและสิ่งแวดล้อมของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ รวมถึงสถานที่ไปเที่ยวหากเป็นแหล่งชุมชนที่มีวัฒนธรรมประจำท้องถิ่นเป็นของตนเอง พวกเขาก็ต้องการจะได้ประสบการณ์จากวัฒนธรรมต่างๆ เหล่านั้นด้วย เพื่อจะได้สัมผัสประสบการณ์ในแต่ละท้องถิ่นที่ได้ไปเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวพร้อมจ่ายเงินมากขึ้น ถ้ามีกิจกรรมให้ทำร่วมกับท้องถิ่นนั้น ซึ่งพวกเขาคิดว่านี่แหละเป็นการกระจายรายได้ให้กับชุมชนอีกทางนึง
5.เปลี่ยนรูปแบบการเดินทาง
ด้านรูปแบบการเดินทางไปเที่ยว ก็เป็นอินไซต์สำคัญของนักท่องเที่ยวปี 2565 เพราะพวกเขาเห็นว่า นี่ก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ดังนั้น นักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่งเห็นว่า การเดินทางเที่ยวที่เที่ยวใกล้บ้านจะช่วยลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้ รวมถึงการใช้รถสาธารณะหรือเช่าจักรยานปั่นเที่ยวเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทาง ก็ช่วยสิ่งแวดล้อมได้ด้วย หากเดินทางไปเที่ยวไกลๆ การใช้รถไฟแทนรถยนต์ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และนักท่องเที่ยวเกือบครึ่งก็มองว่า การเดินทางด้วยเครื่องบินทำให้เกิดผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 อินไซต์สำคัญที่นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญ จากรายงานการเดินทางอย่างยั่งยืนประจำปี 2565 ที่รวบรวมข้อมูลเชิงลึกจากความคิดเห็นของผู้เดินทางกว่า 30,000 คนใน 32 ประเทศ หวังว่าทริปต่อไปของเพื่อนๆ จะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Booking.com