ถ้าพูดถึงนกพิราบ หลายคนน่าจะคุ้นคยกันเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะไปไหนก็จะจอแต่นกพิราบ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ แถววัดต่างๆ เพื่อนๆ คนไหนจอนกพิราบก็อย่าลืมระวังตัวและอย่าเข้าไปใกล้มากนะ เพราะเจ้านกพิราบ เป็นสัตว์อีกหนึ่งชนิดที่เป็นพาหะของโรคร้าย เนื่องจากในมูลของนกพิราบมีเชื้อราที่เรียกว่า ‘Cryptococcus neoformans’ เชื้อคริปโตคอคคัส เชื้อดังกล่าว เป็นที่มาของการเกิดโรคต่างๆ และมีความร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้! ด้วยการสัมผัส และหายใจสูดดมละอองเชื้อราเข้าไปในร่างกาย ส่วนจะมีโรคอะไรที่มากับนกพิราบบ้าง สามย่านมิตรทาวน์ มีข้อมูลมาเล่าให้เพื่อนๆฟัง
โรคคริปโตคอกโคสิส (Cryptococcosis)
หรือโรคสมองอักเสบ เกิดจากเชื้อราคริปโตคอคคัส เป็นเชื้อราชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ง่ายและพบในมูลนกพิราบ ส่วนใหญ่มักเกิดกับผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น คนที่ได้รับยากดภูมิ หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาแต่กำเนิด ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติถึง 1,000 เท่า
โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ปกติแล้วโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สามารถเกิดขึ้นได้จากเชื้อโรค เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียจากสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราที่มาจากที่อยู่อาศัย สภาวะแวดล้อมไม่สะอาดนัก หรือมาจากพยาธิที่มากับอาหารที่ไม่สะอาด กึ่งสุกกึ่งดิบ
โรคปอดอักเสบ
หากหายใจและสูดดมเอาเชื้อราชนิดนี้เข้าไปในปอด ก็อาจทำให้ปอดอักเสบได้ โดยเริ่มจากอาการปอดติดเชื้อก่อน แล้วอาจค่อยๆ ลามไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ ในนกพิราบยังมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “คลามัยเดีย” ที่ทำให้เกิดอาการปอดบวมได้อีกด้วย
สังเกตอาการเสี่ยงติดเชื้อ
หากสูดดมเข้าไปในร่างกายจะทำให้ติดเชื้อที่ปอด ทั้งยังสามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง ได้อีกด้วย ซึ่งจะมีอาการไข้ ไอเป็นเลือด เจ็บหน้าอก มีปัญหาทางการมองเห็น มึนงง หากมีการติดเชื้อที่สมองจะมีอาการสับสน และพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป และอาจไม่ใช่เฉพาะมีอาการปอดอักเสบ แต่เชื้ออาจลามไปทำลายสมองของเราได้อีกด้วย ดังนั้น เพื่อนๆ ควรหยุดให้อาหารนกพิราบ เพื่อป้องกันโรคร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น
วิธีป้องกันตนเองจากความเสี่ยงติดเชื้อราจากมูลนกพิราบ
กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้มากกว่าคนปกติ ได้แก่ เด็ก ผู้สูงอายุ คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น คนที่ได้รับยากดภูมิ หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอมาแต่กำเนิด สำหรับคนที่มีภูมิคุ้มกันปกติก็สามารถติดเชื้อได้เช่นกัน โดยควรป้องกันตนเอง เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อราจากมูลนกพิราบ โดยมีวิธีป้องกันดังนี้
1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสนก การเข้าไปอยู่ในฝูงนกพิราบ หากต้องเข้าใกล้ ควรใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรค
2.คนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ ไม่ควรเข้าไปใกล้นกพิราบ เพราะอาจได้รับเชื้อในมูลเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจ
3.ไล่นกพิราบไปไกลๆ ไม่ให้มาอาศัยอยู่ภายในบริเวณบ้าน
4.ทำความสะอาดอาคารเก่า หรือบริเวณที่พบนกเคยอยู่อาศัย และล้างมือหลังจากทำความสะอาดทุกครั้ง
5.ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง ซึ่งจะเป็นการช่วยป้องกันเชื้อโรคได้
6.ไม่ให้อาหารนกพิราบ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน
รู้แบบนี้แล้ว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคร้ายที่จะเกิดขึ้นจากนกพิราบกันนะ ถ้าต้องเจอกับนกพิราบจริงๆ ก็อย่าเข้าไปใกล้มากนัก หรือเข้าไปสัมผัสตัวนกพิราบ เพื่อความปลอดภัยของเพื่อนๆ ทุกคน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลศิครินทร์ , ศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อและพาหะนำโรค, สำนักข่าวไทยพีบีเอส
