ตอนนี้ก็เข้าใกล้เทศกาลสำคัญประจำปีของคนไทยแล้ว นั่นก็คือ เทศกาลสงกรานต์ หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนต้องเดินทางกลับบ้านไปหาพ่อแม่ ญาติพี่น้องที่ต่างจังหวัดกันแน่นอน แม้ว่าจะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะยังน่าเป็นห่วง แต่เทศกาลสงกรานต์ถือเป็นเทศกาลสำคัญที่ทุกคนต้องการจะกลับไปอยู่กับครอบครัว เลยทำให้ทุกคนต่างมุ่งหน้าออกต่างจังหวัด
สำหรับการเดินทางกลับบ้าน เชื่อว่าหลายคนยังคงเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัว เลยทำให้ปีนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่การจราจรน่าจะหนาแน่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้สูง หากใช้รถใช้ถนนไม่ระวัง หรือขับรถด้วยความประมาท เพื่อให้เพื่อนๆ กลับไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัย สามย่านมิตรทาวน์ มีคำแนะนำการขับรถอย่างไรให้ปลอดภัย พร้อมความรู้เกี่ยวกฎหมายด้านการจรจรเบื้องต้นมาฝาก
1.มองให้ไกล
มองไกลในที่นี้ หมายถึง การมองเลยไปถึงรถคันที่อยู่ข้างหน้าของรถคันหน้าเราอีกที เพื่อให้สามารถเบรกได้ทันหากมีเหตุการณ์ที่จะต้องเบรกกะทันหัน ทิ้งระยะห่างจากคันหน้าอย่างน้อย 3-4 วินาที
2.มองภาพกว้าง 360 องศา
นอกจากจะมองไกล คนขับต้องหมั่นมองรอบด้านแบบ 360 องศาด้วย เพราะอันตรายมีรอบด้าน ควรมองทั้งหน้า ซ้าย ขวา หลัง ล่าง และมองกระจกทุกๆ 5 – 8 วินาที รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ รถของเรา
3.สอดส่ายสายตาตลอดเวลา
การขับรถไม่ใช่มองจุดใดจุดหนึ่งนานเกินไป ซึ่งไม่ควรเกิน 2 วินาที เพราะจะทำให้เรามองไม่เห็นรถคันอื่นที่อาจแทรกมาได้ ไม่ควรละสายตาออกจากการมองท้องถนนไปพูดคุยกับคนในรถ หรือทำโน้นทำนี่ในรถ
4.สร้างพื้นที่ว่างให้ตัวเอง
หากเป็นไปได้ ให้พยายามให้มีช่องว่างรอบๆ รถของเรา เพื่อให้สามารถหลบหลีกได้ทัน หากมีรถคนอื่นเบียดเข้ามา หรือเบรกกะทันหัน ควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าประมาณ 5 เมตรเพื่อความปลอดภัย
5.ให้สัญญาณล่วงหน้า
หากคุณต้องการที่จะเลี้ยว เปลี่ยนเลน หรือหยุด ควรให้สัญญาณแก่รถคันอื่นก่อน
ที่สำคัญการขับรถต้องไม่ประมาท ไม่ขับเร็วเกินไป ไม่ขับรถซิ่ง และต้องเคารถกฎจราจรเสมอ ที่นี้ก็มาดูกันว่า การขับรถจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายเบื้องต้นยังไงกันบ้าง
1.ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด
หากขับรถในเมืองต้องมีความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และหากขับรถนอกเขตเมืองความเร็วที่ทำได้ต้องไม่ควรเกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ในกรณีที่เราใช้งานทางด่วนพิเศษ หรือใช้ทางมอเตอร์เวย์ ผู้ขับขี่ต้องใช้ความเร็วไม่ควรเกิน 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากฝ่าฝืน อาจมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และหากการขับรถเร็วเกินไปจนเกิดอุบัติเหตุโดยประมาท จนต้องทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ ทางกฎหมายบอกไว้ว่าเราอาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ถ้ามีคนต้องเสียชีวิต อาจโดนโทษทางกฎหมายหนักที่สุดคือ จำคุกไม่เกิน 6 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2.ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย
ถ้าผู้ขับขี่รถบนท้องถนน ไม่ยอมหยุด หรือชะลอรถบริเวณทางม้าลาย ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุชน หรือเฉี่ยวผู้ใช้ทางม้าลายให้เกิดการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต อาจโดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท หากขับรถชนทำให้เกิดการบาดเจ็บ อาจต้องโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และกรณีนี้หากเราขับรถชนผู้ที่ข้ามถนนบริเวณทางข้ามม้าลายเสียชีวิตจะมีโทษทางกฎหมายจำคุกสูงสุดไม่เกิน 10 ปีเช่นเดียวกัน
3.ขับรถช้าแช่ช่องขวา / ขับแซงช่องซ้ายสุด
หากใครที่มีนิสัยชอบขับช้าแช่ขวา จะมีโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท และในกรณีที่มีช่องทางเดินรถในทิศทางเดียวกันตั้งแต่ 2 ช่องทางขึ้นไปถ้าหากเราขับรถแซงซ้าย ผู้ขับขี่อาจมีความผิดที่โดนโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท แต่ถ้าเป็นถนนที่มีสองเลนปกติ สามารถขับรถแซงซ้ายได้ปกติ ไม่ผิดกฎหมาย
4.ขับรถไม่เปิดไฟในช่วงกลางคืน
สำหรับข้อนี้จะมีโทษปรับที่ไม่เกิน 500 บาท และถึงจะเปิดไฟส่องสว่างหน้ารถ แต่ใช้ไฟผิดประเภท เช่น ไฟซีนอน สีฟ้า สีม่วง สีเขียว แบบที่รถซิ่ง ๆ ชอบทำกัน จะมีโทษปรับที่ไม่เกิน 2,000 บาท แต่จะมีอีกกรณีหนึ่งใช้สีไฟถูกต้อง และเปิดไฟหน้ารถ แต่เปิดเป็นแบบไฟตัดหมอกตลอดเวลา จะมีโทษปรับไม่เกิน 500 บาท
ทั้งหมดนี้ก็เป็นความรู้และข้อแนะนำดีๆ เพื่อให้เพื่อนๆ เดินทางกลับบ้านหรือท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย ขอให้ทุกคนสนุกกับวันหยุดพักผ่อน และการฉลองวันขึ้นปีใหม่ของไทยกันอย่างมีความสุขทุกคน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เพลิน ธนาคารกรุงศรี, silkspan
