Sunday, May 28, 2023
Advertising call 02-033-8900 ext. 8819spot_img

5 โรคสัตว์เลี้ยงมากับอากาศร้อน ที่เจ้าของไม่ควรมองข้าม!

แม้ว่าตอนนี้จะก้าวเข้าสู่หน้าร้อนกันแล้ว แต่ก็ยังมีฝนตกในหลายพื้นที่เป็นระยะๆ อากาศแปรปรวนแบบนี้ นอกจากมนุษย์อย่างเราต้องดูแลรักษาร่างกายให้แข็งแรงแล้ว สัตว์เลี้ยงของเราก็ยังต้องการการดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน เพื่อนๆ คนไหนมีสัตว์เลี้ยงอยู่ในความดูแลบ้าง? ถ้ามีอย่าลืมดูแลน้องๆ ให้มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ เพราะหน้าร้อนแบบนี้สัตว์เลี้ยงของเรามักจะป่วยกันอยู่บ่อยๆ ซึ่ง 5 โรคยอดฮิตของสัตว์เลี้ยงที่ต้องระวังกันเป็นพิเศษ ดังนี้

1.โรคฮีทสโตรก หรือโรคลมแดด
โรคนี้เกิดได้มากในสัตว์เลี้ยงที่มีต้นกำเนิดมาจากเมืองหนาว ไม่ว่าจะหมา แมว หรือแม้แต่กระต่ายก็เสี่ยงโรคนี้ได้เหมือนกัน ซึ่งภาวะฮีทสโตรกในสัตว์เลี้ยงนั้นจะเกิดในสภาวะแวดล้อมที่มีอากาศร้อน มีอุณหภูมิพุ่งสูงจัดเกินไป จนอุณหภูมิในตัวสัตว์สูงขึ้นมากกว่าปกติ สามารถสูงถึง 40.5 – 42 องศาเลยทีเดียว ทำให้สัตว์ไม่สามารถระบายความร้อนออกจากร่างกายได้อย่างรวดเร็ว และอวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลันในท้ายที่สุด โดยมีสัญญาณอันตรายที่เจ้าของสามารถสังเกตได้คือ แรกๆ จะมีอาการหอบ หายใจไม่ทัน มึนงง น้ำลายยืดผิดปกติ บางครั้งอาจมีอาการดุร้ายชั่วคราว หรือบางเคสถึงขั้นจำเจ้าของไม่ได้เลยก็มี

วิธีดูแลน้องหมาน้องแมวเบื้องต้นที่เจ้าของสามารถทำได้ง่ายๆ คือ หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และพาสัตว์เลี้ยงของคุณไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีแดดส่อง มีลมผ่านตลอดเวลา แต่ไม่ควรเปิดแอร์หรือพัดลมจ่อ คอยป้อนน้ำให้น้องบ่อยๆ และอาจใช้ผ้าขนหนูห่อตัวเพื่อช่วยระบายความร้อน แต่ห้ามใส่น้ำแข็งหรือใช้น้ำที่เย็นจัดเพราะอาจเสี่ยงทำให้ช็อกได้

2.พยาธิเม็ดเลือด
ปัญหากวนใจน้องหมาและเจ้าของหนีไม่พ้นเลย คือ “เห็บ” ตัวการร้ายที่ทำให้น้องหมาเกิดอาการคัน และนำไปสู่โรคร้ายหรือพยาธิเม็ดเลือดได้อีกด้วย โรคนี้สามารถพบได้ในน้องหมาทุกเพศ ทุกวัย ทุกสายพันธุ์ หรือจะแทบทุกตัวบนโลกนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งถ้าน้องหมาเกิดติดเชื้อแล้ว จะทำให้มีไข้สูง ซึม ไม่อยากอาหาร น้ำหนักลด หากอาการรุนแรงอาจถึงขั้นอัมพาตขาหลังและเสียชีวิตได้ ความยากของโรคนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือเป็นโรคที่สังเกตได้ยากมาก

ดังนั้น คนรักสัตว์เลี้ยงควรที่จะกำจัดเห็บหมัดให้สิ้น และพบสัตวแพทย์อย่างสม่ำเสมอพร้อมกับปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเข้มงวด หากน้องติดเชื้อแล้วก็ควรที่จะดูแลสังเกตอาการ ติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญการจัดอาหารที่เหมาะสม อุดมไปด้วยแร่ธาตุ สารอาหารที่เพียงพอ ก็จะช่วยให้น้องหมาฟื้นฟูร่างกายกลับมาแข็งแรงขึ้นได้แล้ว

3.โรคพิษสุนัขบ้า หรือโรคกลัวน้ำ
โรคพิษสุนัขบ้าไม่ได้เกิดแค่กับน้องหมาอย่างเดียวนะ แต่สามารถเกิดทั้งในแมว กระต่าย หนู กระรอก แต่จากข้อมูลแล้วพบว่าหมาและแมวสามารถนำโรคนี้ติดต่อสู่คนได้มากที่สุดและพบบ่อยที่สุด ซึ่งการติดต่อของโรคพิษสุนัขบ้ามักมาจากการสัมผัสกับน้ำลายจากการถูกกัด ข่วน หรือเลียบริเวณที่มีรอยแผล บริเวณเยื่อบุปาก หรือตา เป็นต้น และเมื่อคนติดเชื้อแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้ และต้องเสียชีวิตทุกราย

ส่วนอาการของสัตว์ คือ มีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด กัดทุกสิ่งที่ขวางหน้า น้ำลายไหลมากผิดปกติ ไม่กินข้าวไม่กินน้ำ ขาอ่อนเปลี้ยเดินตุปัดตุเป๋ และนำไปสู่อัมพาตทั้งตัวอย่างรวดเร็วและทำให้น้องหมาเสียชีวิตในที่สุด ฟังอย่างนี้แล้วเจ้าของควรดูแลสัตว์เลี้ยงของคุณให้ดี ไม่ปล่อยให้ไปข่วนหรือกัดคนอื่นได้ ควรพาไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุขนัขบ้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และควรฉีดกระตุ้นจากเข็มแรก 1-3 เดือน โรคพิษสุขนัขบ้านี้เป็นภัยร้ายใกล้ตัวที่ต้องระวังทั้งคนและสัตว์เพราะเป็นอันตรายแก่ชีวิตเลยทีเดียว

4.โรคหัดสุนัข
อีกหนึ่งโรคที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงควรระวังและสังเกตนั่นก็คือ โรคหัดสุนัข ที่เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งพบได้มากในน้องหมาอายุ 3-6 เดือน เป็นช่วงที่ภูมิคุ้มกันลดลง โรคนี้น่ากลัวตรงที่ว่าบางสายพันธุ์แทบจะไม่แสดงอาการ หรือหากแสดงอาการก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้สมองอักเสบ ผอมแห้ง มีไข้สูง ทำให้อัตราการตายนั้นสูงมาก แม้ว่าเทคโนโลยีการแพทย์ในปัจจุบันจะก้าวไกลมาก ก็ยังไม่มีทางรักษาที่หายขาดได้เลย แต่เป็นการรักษาตามอาการเพื่อให้บรรเทาลง ฉะนั้น ในฐานะคนรักสัตว์เลี้ยงก็ควรจะป้องกันโดยการพาลูกหมาไปรับวัคซีนให้ครบ เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันอยู่เสมอ แต่ถ้าหากพบว่าติดเชื้อแล้วให้รีบพาน้องหมาแยกออกจากฝูงและนำไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน

5.โรคท้องเสีย
เป็นอีกหนึ่งโรคที่วันดีคืนดีสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ อาจเกิดอาการท้องเสีย ถ่ายเหลวขึ้นมาได้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เจ้าของอาจตกใจเพราะไม่รู้ว่าต้นตอปัญหาเกิดจากอะไรกันแน่ สาเหตุของโรคท้องเสียนั้นมีมากมาย เช่น ช่วงอายุ การได้รับวัคซีนไม่ครบ กินอาหารที่มันมากและมีกากใยมากเกินไป หรืออาหารที่ไม่สะอาด แต่อีกปัจจัยหนึ่งก็คืออากาศนั่นเอง สภาพอากาศที่ร้อนจัด สามารถทำให้เชื้อแบคทีเรียร้ายในอาหารเติบโตได้เร็วมากยิ่งขึ้น และอากาศที่ร้อนระอุแบบนี้ยังทำให้สัตว์เลี้ยงกินน้ำมากผิดปกติ ส่งผลให้เกิดการถ่ายเหลวมากกว่าที่ควร

ดังนั้น ถ้าน้องป่วยเป็นโรคท้องเสียแล้วล่ะก็ เพื่อนๆ ควรงดให้อาหารชั่วคราวประมาณ 6-12 ชั่วโมง เพื่อพักการทำงานของลำไส้ อาจเสริมด้วยน้ำเกลือแร่หรือของหวาน เพื่อทดแทนแร่ธาตุที่สูญเสียไป แต่ถ้าอาการของน้องไม่ดีขึ้นก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์ทันที เพราะโรคร้ายในสัตว์เลี้ยงไม่ได้มีแค่โรคที่มากับอากาศร้อนเท่านั้น แต่ยังมีโรคอีกมากมายที่อาจก่อกวนสัตว์เลี้ยงแสนรู้ของเพื่อนๆ

ทางที่ดี เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยง เพื่อนๆ ควรทำความรู้จักลักษณะอาการของโรคต่างๆ เอาไว้ และคอยสังเกตพฤติกรรม รวมถึงสุขภาพของสัตว์เลี้ยงของเพื่อนๆ อยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของน้องๆ

ขอบคุณข้อมูลจาก : Krungsri Plearn Plearn

- Advertisment -

“SAMYAN MITRTOWN 3RD ANNIVERSARY มิตรเดย์ มิตรเลิฟ เฟสติวัล ”

ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแคมเปญ “SAMYAN MITRTOWN...