พอมีโควิด-19 ระบาดต่อเนื่องหลายปี เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม โดยเฉพาะการอยู่อาศัย ที่ต้องการพื้นที่ของที่พักมากขึ้น เพราะเราต้องเว้นระยะห่างทางสังคม และต้องใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมากขึ้นด้วย หลายคนที่วางแผนซื้อบ้านใหม่ก็เลยเลือกไปซื้อบ้านเดี่ยวหรือทาวน์เฮ้าส์ แทนการเลือกซื้อคอนโดมิเนียม ที่เคยฮิตกันมากเมื่อหลายปีที่ผ่านมา
คนที่เลือกซื้อบ้านใหม่ในช่วงนี้ อาจจะเป็นบ้านหลังแรกของตัวเอง แต่บางคนก็ไม่ใช่บ้านหลังแรก อาจจะเป็นบ้านหลังที่สอง ที่ต้องการบ้านที่ใหญ่ขึ้น เพราะต้องอยู่กันหลายคน ทั้งพ่อแม่พี่น้อง ปู่ย่าตายาย เรียกว่าหลายเจเนอเรชั่น ซึ่งสำหรับคนอยากมีบ้านใหม่ ก็อาจจะต้องขายบ้านเก่าทิ้งไปก่อน เพื่อเอาเงินไปซื้อบ้านใหม่ จะได้ไม่เป็นภาระหนักในการซื้อ แล้วการขายบ้านนั้นจะต้องทำยังไง เพื่อขายให้ได้เร็ว หรือขายแล้วยังมีกำไร
แต่การขายบ้าน จะว่าไปก็มีรายละเอียดและเรื่องที่ต้องพิจารณาหลายอย่าง บางอย่างหลายคนก็เข้าใจผิด บางเรื่องคนก็คิดว่าไม่ต้องทำก็ได้ วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ มีเทคนิคและข้อคิดที่จะช่วยทำให้เราขายบ้านเก่าออกไปได้ตามที่เราต้องการ เพื่อนๆ ลองดูนะว่า 5 ข้อ ที่เข้าใจผิดทำคนขายบ้านสับสนมีอะไรบ้าง
ข้อ 1 ตั้งราคาขายตามใจฉัน
ผู้ขายต้องทำความเข้าใจและตระหนักเสมอว่า การตั้งราคาขายที่เหมาะสมเป็นเรื่องสำคัญ เราต้องศึกษาและเปรียบเทียบราคาตลาด พิจารณาสภาพเศรษฐกิจหรือสถานการณ์แวดล้อมในเวลานั้น ๆ ด้วย จะมาตั้งราคาขายตามใจอาจจะทำให้ขายได้ช้า หรือขายไม่ได้
ข้อ 2 สามารถปิดซ่อนปัญหาเกี่ยวกับตัวบ้านได้มิด
ปัญหาเกี่ยวกับบ้านจะปิดอย่างไรก็ไม่มิด 100% เชื่อซิ เพราะผู้ซื้อและนายหน้าอสังหาฯ ในวันนี้ เขาศึกษาทำการบ้านอยู่ตลอดเวลาจากหลายช่องทาง ทั้งจากเว็บไซต์ที่ให้ความรู้เรื่องที่อยู่อาศัยหรือประสบการณ์ตรงที่มีผู้แชร์บนโลกออนไลน์ ถ้ามีปัญหาอะไร ก็ต้องแจ้งให้ชัดเจน
ข้อ 3 เชื่อใจผู้ซื้อมากเกินไป อาจทำเสียโอกาสขาย
เมื่อตกลงซื้อขายเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายจะรอความชัดเจนในการตกลงวันนัดทำสัญญาเพื่อดำเนินธุรกรรมกับผู้ซื้อต่อไป อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เป็นการปิดโอกาสในการขายบ้านให้กับบุคคลอื่น เราควรขอให้ผู้ซื้อวางเงินมัดจำ หรือขอดูจดหมายอนุมัติสินเชื่อของผู้ซื้อด้วยก็ได้ จะได้รู้ว่าขายให้เขาแน่ ๆ
ข้อ 4 รอรับเงินแต่ลืมเตรียมค่าภาษี
เมื่อการเจรจาตกลงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้หมายความว่าผู้ขายจะรอรับเงินจากผู้ซื้อเพียงอย่างเดียว เนื่องจากในการซื้อขายบ้านมีภาษีขายบ้าน ซึ่งคือภาษีธุรกิจเฉพาะด้วย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อหลายคนมักมองข้ามไป โดยทั่วไปค่าใช้จ่ายในการขายบ้านส่วนที่ผู้ขายต้องจ่ายนั้น จะมี 4 รายการใหญ่ๆ ได้แก่ ค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์ในอัตรา 2% จากราคาประเมิน (ผู้ซื้อและผู้ขายชำระค่าธรรมเนียม 1% เท่าๆ กัน), ค่าอากรแสตมป์ 0.5%, ภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3% และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ซึ่งผู้ขายควรคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ถี่ถ้วน เพื่อวางแผนลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นลงได้ เช่น ถือครองอสังหาริมทรัพย์นานเกิน 5 ปี หรือมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านครบ 1 ปี ซึ่งจะทำให้ได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ข้อ 5 ขายเองก็ได้ ไม่ต้องมีนายหน้า
ผู้ขายส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าการขายบ้านเหมือนกับการขายของอย่างอื่น ไม่ได้ซับซ้อน จึงไม่อยากไปเสียเงินจ้างใครช่วยขาย แต่จริงๆ แล้วการมีนายหน้าก็จะทำให้สะดวก และปิดการขายได้เร็วขึ้น แต่เราควรศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดี รวมถึงค่าธรรมเนียมนายหน้าให้ดีด้วย
และนี่ก็คือ 5 เทคนิควิธีช่วยทำให้การขายบ้านได้สะดวก รวดเร็ว และเป็นไปตามที่ต้องการ ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองไปปรับใช้ดู เพราะถ้าขายบ้านหลังเก่าได้ ก็จะได้มีบ้านหลังใหม่ตามที่ต้องการมาอยู่กันกับคนในครอบครัวอย่างอบอุ่น
ขอบคุณข้อมูลจาก : ดีดีพร็อพเพอร์ตี้
