ในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาพุ่งแรงแบบนี้ นับเป็นเรื่องใหญ่ของใครหลายๆคน โดยเฉพาะคนที่ชื่นชอบเมนูจากเนื้อหมู ไม่ว่าจะเป็นหมูทอด หมูปิ้ง หรือหมูกระทะ ต่างได้รับผลกระทบต้องควักกระเป๋าจ่ายเงินเพิ่ม ทำให้หลายคนกำลังติดสินใจอยู่ว่า จะกินเนื้อหมูต่อไป หรือเลือกกินเมนูใหม่ๆดี สำหรับใครที่อยากจะลองเปลี่ยนเมนูดู สามย่านมิตรทาวน์ มีเมนูทางเลือกมาแนะนำ บอกเลยนอกจากราคาจะไม่สูงแล้วยังได้ประโยชน์แบบเต็มๆ อีกด้วยนะ

จากข้อมูลของ “ดร.สง่า ดามาพงษ์ นักวิชาการโภชนาการอิสระ” ให้คำแนะนำว่า ในช่วงที่เนื้อหมูมีราคาแพง เราควรปรับเปลี่ยนมาเลือกอาหารที่หลากหลายมากขึ้น เพราะมีหลายเมนูที่สามารถทดแทนโปรตีนจากเนื้อหมูได้ เล่าไปเพื่อนๆ อาจจะยังไม่เห็นภาพ เราไปดูแต่ละเมนูที่นำมาฝากกันดีกว่า
1.เลือกเมนูจากเนื้อปลา
เนื้อปลาถือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการโดยรวมที่ใกล้กับเนื้อหมู เพราะทั้งมีโปรตีนคุณภาพ ย่อยง่าย มีไขมันดี และไขมันต่ำ แถมยังมีโอเมก้า 3 สูง ดังนั้น เพื่อนๆ ควรกินทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเลสลับกันไป ตามมาด้วยเนื้อไก่ที่มีไขมันต่ำกว่าเนื้อหมู แต่ให้โปรตีนใกล้เคียงกัน

2.เลือกเมนูจากเนื้อสัตว์อื่นๆ
นอกจากเนื้อหมูยังมีเนื้อสัตว์อื่นๆอีกมากมาย อาทิ เนื้อวัว เนื้อเป็ด กุ้ง หอย ปู โดยจะให้โปรตีนที่ใกล้เคียงกัน คือ ประมาณ 20-30 กรัมต่อน้ำหนัก 100 กรัม
3.เลือกเมนูมังสวิรัติ หรือเจ
โดยเพื่อนๆ สามารถเลือกมากินมังสวิรัตหรือเจกันบ้างเป็นบางมื้อและในบางวัน ที่จะมีประโยชน์จากการกินอาหารทดแทนเนื้อหมูได้ โดยควรเลือกกินมังสะวิรัตแบบกินไข่และดื่มนมควบคู่กันไป เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่สมบูรณ์ ทั้งวิตามิน บี12 ธาตุเหล็ก และแคลเซี่ยม

4.เลือกเมนูจากไข่ไก่ ไข่เป็ด และดื่มนมให้มากขึ้น
การกินไข่ และดื่มนมให้เหมาะสมของแต่ละช่วงวัยถือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ นะเพื่อนๆ เพราะสุขภาพของแต่ละคนต้องการสารอาหารจากอาหารเหล่านี้ เพื่อไปเสริมโปรตีน โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาหมูแพงแบบนี้
นอกจาก 4 เมนูที่แนะนำไป ยังมีเมนูอื่นๆ อีกมากมายนะเพื่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นผัดกระเพราไก่ หรือกระเพราปลา ก๋วยเตี๋ยวไก่/ปลา/เป็ด ราดหน้าหรือผัดซีอิ้วไก่ ลาบไก่/ปลา ลาบเต้าหู้ แกงจืดเต้าหู้ ปลาเผา ต้มยำปลา/กุ้ง/ไก่ ปลา/ไก่ทอดกระเทียมพริกไทย หรือผัดผักรวมใส่ไก่/กุ้ง/ปลา แต่ละเมนูให้โปรตีนเหมือนกับได้กินหมู
ส่วนเพื่อนๆ คนไหนที่อยากหันมากินไข่มากขึ้น ก็อย่าช้าค่ะ จัดไปเลย เพราะไข่สามารถหาซื้อได้ง่าย แถมยังปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู และเป็นอาหารที่มีโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างครบครัน ซึ่งความเหมาะสมในการกินไข่ก็จะแตกต่างกันไป โดยช่วงวัยเด็ก จะกินได้อย่างน้อยวันละ 1 ฟอง ช่วงอายุ 15-40 ปี กินได้วันละ 2 ฟอง ช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป กินได้วันละ 1 ฟองเช่นกัน ยกเว้นกลุ่มคนที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน ไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ 3 ฟอง

ตอนนี้เพื่อนๆ น่าจะพอได้ไอเดียใหม่ๆ ในของเมนูอาหารที่นำมาทดแทนเมนูหมูกันได้บ้างแล้ว อย่าลืมนะคะเพื่อนๆ การเลือกรับประทานอาหารที่หลากหลาย หรือเลือกเมนูใหม่ๆ ในการทำอาหาร ล้วนแต่มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพ และสบายกระเป๋าอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : ฐานเศรษฐกิจ