หน้าจอโทรศัพท์มือถือถือเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่มีแสงสีฟ้าส่งผลกระทบต่อสุขภาพตาและร่างกายมากกว่าแสงสีอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นในห้องที่ปิดไฟมืด เพราะทำให้มีอาการนอนหลับยากและมีผลเสียต่อสายตามากขึ้น เนื่องจากทำให้แสบตา ตาแห้ง ปวดกระบอกตา ตาพร่ามัว และอาจทำให้มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียการมองเห็นในระยะยาวอีกด้วย
เพื่อนๆ มีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้ลยแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการเล่นมือถือในที่มืดหรือในเวลากลางคืนเป็นเวลานานๆ แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องปิดไฟใช้มือถือในห้องที่มืดจริงๆ เพื่อนๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่ สามย่านมิตรทาวน์ นำมาฝาก ดังนี้
1.ลดความสว่างหน้าจอ
อย่างแรกเลยที่ควรทำและทำง่ายที่สุดก็คือ การปรับลดความสว่างของหน้าจอ ควรปรับให้สว่างน้อยที่สุด โดยยังคงมองเห็นตัวหนังสือและภาพบนหน้าจอได้ชัดเจนอยู่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากใช้งานในห้องที่มืดสนิท ก็อาจปรับความสว่างลงมาที่ระดับต่ำสุดเลย
2.ใช้อินเทอร์เฟซแบบ Dark Mode
หลายๆ แอปฯ ในปัจจุบันมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Dark Mode ที่จะเปลี่ยนอินเทอร์เฟซเป็นธีมสีดำหรือสีเข้ม ทำให้หน้าจอมีแสงสว่างน้อยลง
3.เปิดโหมดลดแสงสีฟ้า
มือถือบางรุ่นจะมีโหมดลดแสงสีฟ้า หรือ Night Mode ที่จะทำให้หน้าจอเป็นโทนอมเหลือง มีแสงสีฟ้าน้อยลง เหมาะสำหรับการใช้มือถือในช่วงเวลากลางคืน เพื่อแก้ปัญหานอนหลับยากและผลกระทบอื่นๆ ต่อสายตา
4.ใช้แอปฯ กรองแสงสีฟ้า
เนื่องจากโทรศัพท์มือถือหลายๆ รุ่นอาจจะยังไม่มีฟีเจอร์นี้ จึงมีแอปฯ สำหรับช่วยลดแสงสีฟ้าให้เลือกอยู่พอสมควร ถ้าต้องปิดไฟใช้มือถือบ่อยๆ ก็ควรลองโหลดมาใช้ดู
5.ติดฟิล์มกรองแสงสีฟ้า
ฟิล์มกันรอยมือถือในปัจจุบันมีหลากหลายประเภท และหนึ่งในนั้นก็คือฟิล์มที่มีคุณสมบัติในการลดแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตาขณะใช้งานมือถือได้มากขึ้น
6.ใส่แว่นกรองแสง
แว่นกรองแสง หรือแว่นกันแดด ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถช่วยลดปัญหาแสงจ้าจากการใช้มือถือในที่มืดได้เช่นกัน แต่ถ้าเป็นแว่นที่ใช้เลนส์กรองแสงสีฟ้าด้วยจะดีที่สุด หรือหากใครมีปัญหาสายตาและต้องใส่แว่นเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อต้องเล่นมือถือหรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ การเลือกตัดแว่นแบบกรองแสงสีฟ้ามาใช้เลยก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะทำตามวิธีดังกล่าวแล้ว การปิดไฟเล่นโทรศัพท์ในห้องมืดๆ ที่มีแสงสว่างไม่เพียงพอก็ส่งผลเสียต่อสายตาอยู่ดี เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ เพื่อนๆ ควรใช้โทรศัพท์ในห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอจะดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : kapook , dearkmedicalcenter.com, bustle.com, vulture.com
