ตอนนี้เพื่อนๆ คนไหน? รู้สึกว่าการเงินของตัวเองตึงๆ บ้าง? เชื่อว่าหลายคนกำลังตึงๆ อยู่แน่นอน เพราะนอกจากค่าครองชีพจะเพิ่มสูงขึ้นแล้ว บางคนยังโดนลดเงินเดือน เลยทำให้หลายคนเริ่มเครียดกับค่าใช้จ่ายที่ไม่บาลานซ์กับรายรับ เพื่อให้เพื่อนๆ มีทางออกในการแก้ปัญหาทางการเงิน วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ มีเคล็ดลับคลายความเครียดทางด้านการเงินมาฝาก

1.ตรวจสอบสถานะการเงิน
วิธีหนึ่งในการช่วยลดความเครียดทางการเงิน คือ การทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าตัวเองมีเงินเท่าไหร่, ในแต่ละเดือนมีรายได้เข้ามาเท่าไหร่และต้องจ่ายหนี้อะไรบ้าง ซึ่งเทคนิคง่ายๆ คือ จดบันทึกรายรับรายจ่าย หรือในช่วงนี้อาจทำให้ละเอียดมากขึ้นด้วยการทำเครื่องหมายวันที่มีรายได้เข้ามาและวันที่ต้องจ่ายหนี้ต่างๆ ลงบนปฏิทิน เช่น ผ่อนบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ บัตรเครดิต มือถือ ไวไฟ
ข้อดีของการตรวจสอบสถานะทางการเงิน คือ ช่วยให้เข้าใจกระแสเงินสดของตัวเอง เช่น วันนี้ 1 ของทุกเดือนเงินเดือนเข้าบัญชี วันที่ 10 จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ วันที่ 15 จ่ายหนี้บัตรเครดิต วันที่ 20 จ่ายค่าบ้าน ก็จะได้รู้ว่าต้องแบ่งเงินไว้จ่ายหนี้วันที่เท่าไหร่ หรือถ้ากรณีรายได้ไม่เพียงพอก็จะได้เตรียมติดต่อเจ้าหนี้เพื่อขอเปลี่ยนวันที่ครบกำหนดจ่ายหนี้ เป็นต้น

2.ติดตามค่าใช้จ่าย
หากเงินตึงมือหรือคาดว่าไม่น่าจะเพียงพอ ให้ลองติดตามการใช้จ่ายของตัวเองเป็นเวลา 1-2 เดือน เพื่อดูว่ามีพฤติกรรมใช้จ่ายเงินของตัวเองว่าเป็นอย่างไร และทุกครั้งที่ซื้อข้าวของให้จดลงสมุดหรือบันทึกลงในมือถือ และถ้าร้านไหนให้บิลมาก็เก็บเอาไว้ทุกครั้ง หลังจากนั้นให้ดูรายการว่าค่าใช้จ่ายไหนที่สามารถตัดออกได้ และค่าใช้จ่ายไหนที่จำเป็น จากนั้นให้ตั้งงบค่าใช้จ่ายรายเดือนต่อไป และดูว่ารายจ่ายลดลงมากน้อยแค่ไหน เมื่อเรารู้เหตุที่มาของค่าใช้จ่ายแล้ว เราก็ควรตัดค่าใช้จ่ายบางอย่างที่ไม่จำเป็นอก เพื่อให้เงินเหลือใช้มากขึ้น
3.อย่าตัดสินใจเรื่องการเงินชั่ววูบ
ในช่วงที่มีความเครียดมากอาจทำให้การตัดสินใจทางด้านการเงินผิดพลาด เช่น ช้อปปิ้งออนไลน์เพื่อระบายความเครียด หรือหลายคนบอกกับตัวเองว่า “ไหน ๆ แก้ปัญหาการเงินไม่ได้ก็ใช้จ่ายให้หมดๆ ไปก็แล้วกัน” ดังนั้น แทนที่จะเพิ่มปัญหาและเพิ่มความเครียด ควรหาทางแก้ปัญหาทางการเงินของตัวเองทีละขั้นตอนและใช้เหตุผลในการตัดสินใจ เพราะหากตัดสินใจเพียงชั่ววูบด้วยอารมณ์และไม่ทันคิด อาจทำให้สถานการณ์ทางการเงินย่ำแย่ลงไปได้

4.อย่าลืมเป้าหมายทางการเงิน
ถึงแม้ตอนนี้เงินจะตึงจนชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่ไม่ได้หมายความว่าเป้าหมายทางการเงินและชีวิตจะล้มเหลว หมายความว่านับจากวันนี้เป็นต้นไปนอกจากการเก็บออมแล้ว ยังมีวิธีอื่นๆ ที่สามารถอยู่ต่อไปได้และบรรลุเป้าหมายทางการเงิน เช่น หารายได้พิเศษ บริหารรายได้และรายจ่าย ที่สำคัญไปกว่านั้น คือ มีสติในการช้อปปิ้ง แบ่งเงินไปลงทุน ที่สำคัญคอยตรวจสอบการเงินของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
5.คิดไม่ออก ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
การวางแผนการเงินไม่ใช่แค่การจัดทำงบประมาณรายรับรายจ่าย การออมเงินหรือวางกลยุทธ์สำหรับการลงทุน แต่ยังรวมถึงการจัดทำแผนบริหารจัดการเรื่องความเสี่ยงให้เหมาะสมเพื่อทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายชีวิตได้ แต่เมื่อเกิดการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID อาจทำให้เกิดความเครียดทางการเงินและส่งผลให้ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

เพราะอีกหนึ่งทางออกที่ดี คือ ลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือนักวางแผนการเงินที่สามารถแนะนำได้ว่า ควรทำสิ่งใดบ้าง เพื่อให้ความเครียดทางการเงินลดลง เช่น การวางแผนการบริหารกระแสเงินสด การบริหารหนี้สิน ขณะเดียวกันก็แนะนำแผนการเงินในระยะยาวเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางการเงิน ทั้งการวางแผนการลงทุน การวางแผนประกันชีวิต การวางแผนเพื่อวัยเกษียณ และแนะนำกลยุทธ์การวางแผนการเงินองค์รวมที่เหมาะสมแต่ละคน
ถ้าเพื่อนๆ ใครไหนกำลังมีปัญหาทางด้านการเงิน ลองเอาเคล็ดลับที่ สามย่านมิตรทาวน์ นำมาฝากไปปรับใช้ดูนะคะ เพื่อสุขภาพทางการเงินและสุขภาพกายที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : wealth me up