ตอนนี้ปี 2564 เดินทางมาสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีกันแล้ว ซึ่งถ้าพูดถึงช่วงฤดูกาลของปี ก็เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว เรากำลังจะก้าวสู่ฤดูหนาวของปีกันแล้ว ซึ่งก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ใครหลายคนเฝ้ารอคอย เพราะหน้าหนาวจะได้ใส่เสื้อกันหนาวสวยๆ ออกไปเที่ยวตามป่าตามดอย ดูทะเลหมอกรับอากาศเย็นๆ กัน

แต่ถ้าเป็นชาวกรุงเทพฯ ก็อาจจะต้องลุ้นกันหนักหน่อยว่าเอาเข้าจริงแล้วหน้าหนาวจะหนาวได้แค่ไหน และจะหนาวได้สักกี่วัน เพราะที่ผ่านมาเพื่อนๆ ก็รู้ก็เห็นกันอยู่ กรุงเทพฯ มีแค่ 3 ฤดูเท่านั้น คือ ฤดูร้อน ร้อนมาก ร้อนสุดสุด เอาเป็นว่าอย่างน้อยการเข้าสู่ฤดูหนาวของไทย ก็น่าจะมีหลายพื้นที่ที่อากาศเย็น มีทะเลหมอกให้เราได้เก็บกระเป๋าออกเดินทางท่องเที่ยวได้บ้างแหละ
หากไม่ใช่เรื่องท่องเที่ยวแล้ว การมาของอากาศหนาวก็มีผลต่อการใช้ชีวิตและความเป็นอยู่ของเราด้วยเหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ซึ่งอาจจะยังมีมรสุมเข้ามาอย่างต่อเนื่องได้ ทำให้เกิดฝนตกหนักเกือบทุกวัน ถึงแม้ฝนจะมาพร้อมกับความเย็นชุ่มฉ่ำ แต่อาจสร้างปัญหาชวนปวดหัวให้กับเราได้ โดยเฉพาะกับปัญหาเรื่องของบ้าน หรือที่พักอาศัย ซึ่งหลายคนอาจรู้สาเหตุ แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ และบางคนแก้ไขเฉพาะหน้าแบบไม่รู้สาเหตุ

แน่นอนว่าปัญหาต้องยังคงอยู่ แต่เรื่องชวนปวดหัวจะหมดไป หากเราทราบปัญหาและแนวทางในการแก้ไข วันนี้สามย่านมิตรทาวน์จึงอยากจะมาชวนคุยเรื่องของปัญหาที่เกี่ยวกับบ้าน ในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ ว่ามีปัญหาอะไรบ้าง และเราจะแก้ไขอย่างไรดี
1.ปัญหาที่เกิดกับหลังคา
หลังคามักเป็นโครงสร้างของบ้านที่เกิดปัญหาบ่อยในช่วงหน้าฝน ซึ่งอาจมาจากการเสื่อมสภาพของวัสดุ การติดตั้งที่ผิดวิธีและไม่ได้มาตรฐาน หรือเกิดความเสียหายจากการวัสดุต่าง ๆ ตกใส่หลังคา ปัญหาเหล่านี้จำเป็นต้องมีการตรวจสอบและแก้ไขอย่างเร่งด่วน เนื่องจากอาจส่งผลกระทบสร้างความเสียหายลุกลามไปยังพื้นที่อื่นๆ หากหลังคามีปัญหา แนะนำว่าควรเลือกใช้มืออาชีพโดยตรง เพราะจะมีความเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาได้เฉพาะและตรงจุด

2.ปัญหาที่เกี่ยวกับรางน้ำ
ปัญหารางน้ำส่วนใหญ่จะเกิดจากมีสัตว์เข้ามาทำรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะพบรังของนกอยู่บ่อยๆ หรืออาจจะมีเศษใบไม้ตกลงมาบริเวณรางระบายน้ำฝน ส่งผลให้รางหรือท่อระบายน้ำอุดตัน แนะนำให้ใช้ช่างขึ้นไปเก็บสิ่งที่อุดตันอยู่ ฉีดล้างทำความสะอาดและติดตั้งรางครอบสำหรับรางน้ำเพิ่มเติม เพื่อเป็นการป้องกันใบไม้และเศษวัสดุต่างๆ ตกลงไปในรางน้ำ
3.ปัญหาที่เกิดจากผนัง
ผนังบ้านหรือวัสดุทั้งหมดในงานก่อสร้างนั้น ล้วนมีการขยาย หรือ หดตัวอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเป็นผนังที่อยู่ทางทิศใต้และตะวันตกด้วยแล้ว การหดหรือขยายตัวอาจมีโอกาสแตกร้าวได้มากกว่าผนังด้านอื่น แม้รอยแตกร้าวจะมีขนาดเพียงแค่เท่าเส้นผมก็ทำให้น้ำสามารถซึมเข้ามายังภายในตัวบ้านได้และอาจก่อให้เกิดปัญหา วิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ จะต้องทำการซ่อมแซมส่วนที่มีการแตกร้าวก่อน โดยอาจใช้เคมีภัณฑ์ประเภทกันซึมเข้ามาช่วยแก้ไข หรือถ้ารอยร้าวมีขนาดใหญ่อาจต้องทำการกรีดผนังแล้วซ่อมแซมเสียก่อน

4.ปัญหาน้ำซึมรั่วจากบริเวณช่องเปิด
ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดจากการเสื่อมสภาพของวัสดุที่อุดรอยต่อของหน้าต่าง เช่น PU ซิลิโคน หรือการเสื่อมสภาพรอบๆ ของกรอบประตูหรือกรอบหน้าต่าง ทำให้น้ำรั่วซึมเข้ามาภายในอาคารได้ ซึ่งวิธีการแก้ไขทำได้ด้วยการขูดเปลี่ยนวัสดุเดิมและยาแนวเข้าไปใหม่อีกครั้ง โดยทั่วไปแล้วอายุของเคมีภัณฑ์จะอยู่ประมาณ 3 – 5 ปี แต่หากปัญหามาจากขอบยางเสื่อมสภาพ แนะนำให้แจ้งช่างเข้าไปวัดขนาดและเปลี่ยนใหม่
5.ปัญหาที่เกิดจากพื้นภายนอกบ้าน
อีกปัญหาที่มักจะพบในช่วงหน้าฝนคือ พื้นดินบริเวณรอบ บ้านเกิดการทรุดตัว สืบเนื่องจากมีแรงจากน้ำฝนที่ตกจากหลังคามาเป็นตัวเร่งทำให้ดินกระเด็น ซึ่งหากบ้านเกิดปัญหาเป็นโพรงใต้บ้านอาจทำให้ดินบางส่วนไหลเข้าสู่ใต้บ้านได้ โดยวิธีการแก้ไขแนะนำให้ติดตั้งรางน้ำ เพื่อลดปริมาณน้ำที่ตกกระทบและแก้ไขโพรงใต้บ้านที่เกิดขึ้น

ช่วงหน้าฝนที่ผ่านมาบ้านไหนมีปัญหาต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น แต่อาจจะยังไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้งานได้ปกติ เพราะเวลาฝนตกหนักการทำงานก็อาจจะลำบาก ซึ่งตอนนี้ฝนเริ่มซาลงแล้วก็อาจจะเอาช่วงเวลานี้แหละมาซ่อมแซมบ้านกันดู หรือจะรอให้หมดฝนเลยก็ไม่ว่ากัน เพราะจะได้ทำงานซ่อมแซมได้สะดวก แต่อย่าปล่อยปะละเลย เพราะไม่อย่างนั้นปัญหาเล็กๆ จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ได้ อย่าลืมซ่อมแซมบ้านให้อยู่ในสภาพที่ดีพร้อมกับการอยู่อาศัยของคนในครอบครัวกันนะเพื่อนๆ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : SCG HOME Experience