เพื่อนๆ เคยสงสัยมั้ยว่า? ทำไมหนังสือที่โด่งดังมาเกือบ 20 ปีถึงยังมีผลต่อผู้อ่านในปัจจุบันอยู่ โดยเฉพาะเรื่อง “7 นิสัยเปลี่ยนชีวิต” หรือ “The 7 Habits of Highly Effective people” โดย Steven Covey ซึ่งเป็นหนังสือที่แปลในภาษาต่างๆ มากกว่า 34 ภาษา มีการจำหน่ายไปมากกว่า 25 ล้านเล่มทั่วโลก
หลังสือเล่มนี้มีเนื้อหาเด่นๆ คือ นิสัยพื้นฐานของคนเราเปรียบเสมือนหัวใจของความสำเร็จที่ล้วนแต่เริ่มต้นจากตัวเราเองทั้งนั้น และเพื่อให้เพื่อนๆ เข้าใจถึงนิสัยตัวเอง และคนรอบข้าง วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ มีข้อมูลการรีวิวของหนังสือเล่มนี้จาก SkillLane มาเล่าให้ฟัง เพราะถ้าหากเราสามารถเปลี่ยนได้ มีคนบอกว่าจะทำให้ชีวิตของเราเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
นิสัยที่ 1 ไม่ปล่อยให้คนอื่นมากำหนดตัวเรา (Be Proactive)
บ่อยครั้งเมื่อมีสิ่งที่ไม่ดีต่างๆ เกิดขึ้น เรามักจะเผลอโทษว่าเกิดจากสิ่งต่างๆรอบตัวเรา ถึงแม้ว่าสิ่งที่เราคิดนั้นอาจจะมีส่วนอยู่ที่ทำให้เกิดผลเหล่านั้นจริงๆ แต่ถ้าหากเราไม่เปลี่ยนแปลงความคิดในหัวของเราที่ว่าเราควบคุมผลลัพธ์ไม่ได้ สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นเหล่านั้นก็จะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลับกัน เพียงแค่เราเชื่อว่าเรากำหนดผลลัพธ์ได้ หยุดคิดก่อนที่จะตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้น เราจึงจะมีชีวิตที่เป็นของเราจริงๆ แล้วเราจะเลิกโทษผู้อื่น
นิสัยที่ 2 เริ่มต้นด้วยจุดจบ (Begin with the end in mind)
เพื่อที่จะอธิบายนิสัยที่ 2 นี้ อยากให้เพื่อนๆ นึกถึงภาพเหตุการณ์ตอนเรากำลังขึ้นรถโดยสารประจำทาง เราต้องเริ่มจากคิดก่อนว่า เราจะไปที่ไหน ? ไปถึงเมื่อไร ? แล้วเราจึงค่อยคิดต่อว่าต้องขึ้นรถสายไหนจึงจะสะดวกที่สุด น่าแปลกที่บ่อยครั้งในชีวิตจริงเรากลับปล่อยให้ตัวเองไปตามกระแสในสังคม รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ห่างจากเป้าหมายที่เราคิดไว้ตอนแรกมาไกลแล้ว ดังนั้นเราจึงควรจะมีเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนนั่นเอง
นิสัยที่ 3 เลือกทำสิ่งที่สำคัญก่อน (Put first thing first)
เมื่อเรามีภาพเป้าหมายของเราอย่างชัดเจนในใจแล้ว การทำสิ่งต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จะต้องเลือกทำในสิ่งที่นำพาเราไปสู่ภาพนั้นก่อนเป็นอันดับแรก และควรต้องทำอย่างต่อเนื่อง อย่าพยายามไปเสียเวลากับสิ่งต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาพเป้าหมายของเรา
นิสัยที่ 4 รู้จักหาจุดที่ได้ประโยชน์ร่วมกับผู้อื่น (Think win-win)
ในความสัมพันธ์ต่างๆ นั้นไม่ว่าจะเป็นที่ทำงาน ครอบครัว หรือเพื่อนฝูง หากเราไม่คิดถึงแต่ตัวเอง แล้วหันกลับไปมองคนอื่นรอบๆ ตัว จะช่วยให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข หรือในสถานการณ์ที่เราก้าวไปสู่จุดที่เป็นระดับผู้บริหาร เราต้องนำนิสัยข้อนี้มาใช้ ทำให้คนในองค์กรได้รับประโยชน์อย่างเท่าเทียมกัน คนที่ตั้งใจทำงานก็ควรจะมีรางวัล เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และทุกฝ่ายในองค์กรก็ต้องได้รับประโยชน์เท่ากันอย่างแท้จริง
นิสัยที่ 5 ฟังคนอื่นก่อนจากนั้นผู้อื่นจะรับฟังในสิ่งที่เราพูด (Seek first to understand, then to be understood)
นิสัยข้อนี้เป็นนิสัยอีกข้อหนึ่งที่สำคัญมากๆ เพราะบ่อยครั้งที่เราฟังคนอื่นแค่พอผ่านๆ ไม่ได้ฟังเพื่อจะเข้าใจจริงๆว่า คนที่เราพูดอยู่ด้วยนั้นต้องการจะสื่ออะไร ฟังเพื่อที่จะเตรียมตอบโต้
หนังสือเล่มนี้สอนให้เราลอง ฟังอย่างตั้งใจ (Listen Attentively) ฟังโดยปราศจากอคติและไม่ตัดสินสิ่งที่เราเราได้ฟังมาว่าถูกไม่ถูก การทำแบบนี้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามที่กำลังสื่อสารกับเราสามารถรับรู้ได้และจะช่วยให้เขาเปิดใจกับเรา
นิสัยที่ 6 การทำงานเป็นทีม (Synergize)
ธุรกิจต่างๆ ที่ยิ่งใหญ่ในโลกนี้ไม่สามารถเริ่มได้จากคนเพียงคนเดียว สังเกตได้ว่า ตอนก่อตั้งแอปเปิ้ล Steve Jobs มีผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Steve Wozniak หรือตอนที่ Larry Page ก่อตั้ง Google ก็มีผู้ร่วมก่อตั้งอย่าง Sergey Brin เมื่อเราสามารถที่จะเข้าใจผู้อื่น รู้จักหาจุดที่ได้ประโยชน์ร่วมกัน และพยายามที่จะเข้าใจผู้อื่นแทนที่จะให้ผู้อื่นมาเข้าใจเรา เราจึงจะสามารถดึงเอาศักยภาพของคนแต่ละคนมาผสมผสานกันอย่างลงตัว และสามารถเปลี่ยนความขัดแย้งให้กลายเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์ได้
นิสัยที่ 7 หมั่นลับคมอย่างสม่ำเสมอ (Sharpen the saw)
ชีวิตก็เปรียบเสมือนการวิ่งมาราธอน เราต้องรู้จักดูแลทั้งสภาพร่างกาย จิตใจ ให้มีความสมดุล ได้ดังต่อไปนี้ ดูแลร่างกายด้วยการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ หากเริ่มจากร่างกายไม่พร้อม เราจะไม่สามารถทำงานต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงดูแลจิตใจ มีเวลาเงียบๆ อยู่กับตัวเองในแต่ละวัน ฝึกฝนจิตใจด้วยการนั่งสมาธิ เป็นต้น พร้อมกับหมั่นหาความรู้ใหม่ ด้วยการอ่านหนังสือ พัฒนาทักษะต่างๆ
อ่านแล้วเป็นยังไงกันบ้าง? ถือเป็นข้อแนะนำที่น่าสนใจมากๆ เลยใช่มั้ยล่ะ เพื่อนๆ คนไหนที่ยังรู้สึกว่าตัวเองมีจุดอ่อน ลองนำ 7 ข้อที่แนะนำไปปรับใช้กันดูนะคะ เพื่อนจุดเปลี่ยนที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปของเพื่อนๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : SkillLane
