เพื่อนๆ รู้หรือยังว่า? สถานที่ท่องเที่ยวของไทยอย่างจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว 1 ใน 8 ของเอเชียที่ควรไปท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายด้วยนะ ถ้ายังไม่รู้ วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ มีข้อมูลมาเล่าให้ฟัง

จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ Forbes advisor ได้มีการจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยวของแต่ละประเทศที่ควรท่องเที่ยวหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) คลี่คลาย โดยยกให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็น 1 ใน 50 สุดยอดจุดหมายปลายทางของโลก และเป็น 1 ใน 8 แห่งของภูมิภาคเอเชีย ซึ่งประกอบด้วย อยุธยา ประเทศไทย , ฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน , ประเทศภูฏาน , อัสสัม ประเทศอินเดีย , ลอมบก ประเทศอินโดนีเซีย , ไทเป ดินแดนไต้หวัน , ประเทศอุซเบกิสถาน และ โดฮา ประเทศกาตาร์
เหตุผลที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ของไทยได้รับการจัดอันดับให้มาอยู่ 1 ใน 8 ของภูมิภาคเอเชีย คือ เป็นเมืองที่มีความยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในช่วงทศวรรษ 1700 นอกจากนี้ พระนครศรีอยุธยายังเป็นแหล่งโบราณสถาน มีอุทยานประวัติศาสตร์เก่าแก่ สามารถย้อนอดีตไปถึง ปี ค.ศ. 1350 อีกทั้งยังมีพื้นที่กว้างขวางที่ก่อเกิดมาจากความแตกต่างของยุคสมัยและวัฒนธรรมที่หลากหลาย

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์แสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของศิลปวัฒนธรรม อันยิ่งใหญ่ งดงามและทรงคุณค่าและองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) ได้มีมติเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็น “เมืองมรดกโลก” ในนาม “นครประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” และมีประเพณี รวมไปถึงมรดกด้านศิลปวัฒนธรรมอันโดดเด่นงดงาม สิ่งดังกล่าวถือเป็นแม่เหล็กสคัญในการดึงดูดใจให้ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย
สำหรับแหล่งท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติไปเยือนมีอยู่มากมาย เช่น พระราชวังบางปะอิน , วิหารพระมงคลบพิตร , วัดพระศรีสรรเพชญ์ . วัดหน้าพระเมรุ ,วัดไชยวัฒนาราม ,วัดพุทไธศวรรย์ , วัดพนัญเชิงวรวิหาร , วัดใหญ่ชัยมงคล , วัดนักบุญยอแซฟ , หมู่บ้านโปรตุเกส ,หมู่บ้านญี่ปุ่น และตลาดโก้งโค้ง เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชน อย่างชุมชนคุณธรรมบ้านเกาะเรียนที่มีภูมิปัญญาด้านขนมไทยตำรับท้าวทองกีบม้า อำเภอพระนครศรีอยุธยา , ชุมชนคุณธรรมบ้านสามเรือน อำเภอบางปะอิน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศเห็ดตับเต่า , ชุมชนคุณธรรมบ้านไทรน้อย อำเภอบางบาล เป็นชุมชนไทยมอญ และมีกิจกรรมที่เป็นเสน่ห์ชุมชน เช่น การแสดงพื้นบ้านทั้งดนตรีไทย รำไทย มวยไทยและศิลปะการต่อสู้ด้วยอาวุธไทย เป็นต้น
ส่วนใครที่ชอบผลิตภัณฑ์ชุมชน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาก็มีผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทย (CPOT) คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ได้แก่ ดอกบัวทองเหลืองที่ชุมชนคุณธรรมวัดค่าย อำเภอบางปะหัน , ปลาตะเพียนใบลานที่ชุมชนคุณธรรมบ้านภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา นาวาสยามทั้งเรือพื้นบ้าน เรือจากต่างประเทศและเรือพระราชพิธีจำลองที่ชุมชนคุณธรรมตำบลข้าวงาม อำเภอวังน้อย และงานยอยศยิ่งฟ้าอยุธยามรดกโลก ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นต้น

สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากไปเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสามารถเดินทางได้ทั้งทางรถยนต์ และรถไฟ โดยในส่วนของรถยนต์ จะใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปประมาณ 1 ชั่วโมง ถ้ารถไม่ติด หรือถ้าเพื่อนๆ คนไหนอยากชิวหน่อยก็นั่งรถไฟไปได้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปประมาณ 90 นาที ซึ่งวิธีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นักท่องเที่ยวนิยม เพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตบนรถไฟแล้ว ยังได้เห็นวิวทิวทัศน์ริมสองข้าวทางรถไฟที่แตกต่างไปจากเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ และคมชัดลึก