เพื่อนๆ เคยเป็นมั้ย? เมื่อกลับมาทำงานทุกต้นสัปดาห์จะมีอาการสมองคิดงานไม่ออกไปชั่วขณะ หรือมีสภาวะสมองตื้อ อาการนี้มีที่มาหลายสาเหตุด้วยกันนะไม่ว่าจะเป็น การตอบสนองภายในของร่างกาย การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด ความเบื่อหน่าย หรืออาจมีเรื่องอื่นๆ ที่สะสมอยู่ ดังนั้น เพื่อทำการทำงานต้นสัปดาห์ของเพื่อนๆ เต็มไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ไหลลื่น สามย่านมิตรทาวน์ มีคำแนะนำ 10 วิธีมาให้เพื่อนๆ ได้ลองทำดู เพื่อเรียกพลัง และไอเดียสุดเลิศในการทำงานกลับมาอีกครั้ง ไปดูกันเลย

1.หยุดการต่อสู้ หันมาเติมพลัง
ในข้อนี้หมายถึง การที่หลายคนหมดพลังในการทำงาน เหมือนกับต้องสู้กับเรื่องที่พยายามทำซ้ำๆ ซึ่งไม่ใช่ทางออกที่ดีเพราะเหมือนยอมรับว่าเรากำลังคิดไม่ออก ซึ่งหมายถึงสมองที่ต้องการเติมพลัง จึงควรที่จะหยุดพักบ้าง เพื่อหาทางออกอื่นๆ ในการสร้างสรรค์งานต่อไป
2.พูดคุย และเดินเล่น
ในช่วงที่คิดงานไม่ออกและยังนั่งอยู่ที่เดิม ก็ควรลองออกจากโต๊ะทำงาน ไปเดินเล่นข้างนอก พูดคุยเรื่องอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับเนื้องาน หรือออกกำลังกายเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวและเลือดในร่างกายสูบฉีดบ้าง โดยในข้อนี้เมื่อได้เคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ อาจจะไม่ได้ฟื้นฟูการทำงานของสมองอย่างสมบูรณ์ แต่ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ และทำให้รู้สึกว่าร่างกายดีขึ้น มีผลให้สมองทำงานได้ดีขึ้นอีกทาง

3.ทำสิ่งที่ไม่สนใจ
หมายถึงในช่วงเวลาที่เรามีความคิดแน่นไปหมด และคิดไม่ออก ก็ควรหันไปเลือกทำงานที่ง่ายๆ ก่อนแทน โดยเป็นเป็นงานที่ไม่ต้องตัดสินใจเยอะ หรือใช้สมองเยอะ เพื่อทำให้เรารู้สึกดีกว่า ได้ทำงานบางอย่างที่ประสบความสำเร็จนั่นเอง และใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ซึ่งจากความสำเร็จจากงานเล็กๆ ก็อาจจะเป็นจุดคลี่คลาย สร้างพลังไปสู่ความคิดใหม่ๆ ได้เช่นกัน
4.เรียนรู้ เพื่อหาไอเดียใหม่ๆ
การเรียนรู้ในสิ่งใหม่ จะนำไปสู่จุดสร้างสรรค์เรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจได้เช่นกัน ทั้งการไปอ่านบล็อก อ่านหนังสือ หรือ ฟังวีดีโอ หรือเข้าไปฟังเรื่องราวที่เราสนใจและมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว เพื่อนำไปสู่การคิดไอเดียใหม่ๆ ตามมา แต่มีข้อควรระวังคือ ต้องไม่กดดันตัวเองว่าจะต้องเรียนรู้เรื่องที่ซับซ้อนหรือยากเกินไป เน้นฟังแล้วทำให้เกิดความสบายใจและไม่เกิดความเครียด

5.ยืมสมองคนอื่น
ในช่วงเวลาเร่งรีบและต้องคิดสร้างผลงาน ก็สามารถใช้วิธีลัดด้วยการไปขอความคิดเห็น ขอคำแนะนำ หรือถามคนที่เชี่ยวชาญ ที่เราไว้วางใจได้ เพื่อทำให้ได้แนวทางที่ชัดเจนและไอเดียใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ในเวลาอันสั้น และทำให้งานสามารถเสร็จได้ตามเวลา
6.นั่งสมาธิ
เป็นอีกวิธีที่ทุกคนทำได้แบบง่ายๆ การนั่งสมาธิแบบเงียบๆ ประมาณ 10-15 นาที เพื่อสูดลมหายใจเข้าออกช้าๆ โฟกัสเฉพาะการหายใจ ทำให้ไม่ปล่อยให้ความคิดลอยไปโดยไม่ตัดสิน จะทำให้รู้สึกสงบและช่วยล้างความคิดที่มุ่งเน้นไปที่การแข่งขัน และกลับมามีสติและทำให้ความเครียดหายไป ไม่ทำให้เราฟุ่งซ้าน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างบอกว่า การนั่งสมาธิที่ฝึกควบคุมลมหายใจก็จะช่วยทำให้ความเครียดหายไป ก็อาจจะมีผลต่อผิวหน้าเด็กลงได้

7.ทำสิ่งที่สร้างสรรค์
วิธีนี้บอกได้เลยว่า เวิร์คสุด โดยเราต้องแบ่งเวลาให้ตัวเองได้ทำสิ่งที่สร้างสรรค์สิ่งที่เรารู้สึกหลงใหลในช่วงเวลาสั้นๆ สัก 1 ชั่วโมง เช่น วาดภาพ ทำอาหาร ทาสี เล่นเครื่องดนตรี เต้นรำ และเขียนบทกวี หรือเรื่องอะไรที่ทำเรามีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อจะปลดปล่อยภาระหน้าที่หนักอึ้ง หรือความคิดมากมายที่แน่นทึบในสมอง ช่วยให้สนุกและผ่อนคลาย และเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในคิดงานใหม่ๆ ออกมาอีกมากมาย
8.ช่วยเหลือใครบางคน
วิธีนี้คือการทำบางสิ่งเพื่อคนอื่น โดยอาจจะเสนอตัวเพื่อช่วยเพื่อนร่วมงาน หรือเพื่อนบ้าน ส่วนใครที่พร้อมมากๆ ก็สามารถออกไปช่วยเหลือคนที่กำลังประสบความยากลำบากอยู่ในสังคมได้เช่นกัน โดยเป็นแนวทางที่จะช่วยสร้างคุณค่าในตัวเอง ซึ่งจะเหมาะกับคนที่กำลังรู้สึกเบื่อหน่ายกับงานที่กำลังทำอยู่ มากกว่าคนที่คิดงานไม่ออก

9.ลิสต์รายการที่ต้องทำ
ในช่วงเวลาที่กำลังรู้สึกสับสนและคลุมเครือ หรือยุ่งอยู่ ก็สามารถใช้การเขียนสิ่งต่างๆ เหล่านั้นลงบนกระดาษ โดยจะเป็นตัวช่วยที่ดี ในการตัดสินใจเพื่อหาทางออก หรือสร้างสรรค์อะไรบางอย่าง โดยเมื่อเขียนลิสต์รายการออกมาจะช่วยให้ จัดระเบียบสมองได้เป็นอย่างดี และทำให้มองเห็นสิ่งที่ต้องทำหรือควรทำก่อนและหลัง เป็นการวางแผนได้ดีมากขึ้น
10.ไม่ทำอะไรเลย
วิธีนี้คือ การปล่อยให้ตัวเองมีความสนุกสนานโดยไม่รู้สึกผิดหรือเครียด โดยเหมาะกับในช่วงเช้าๆ ก่อนที่จะเริ่มทำงาน เพื่อผ่อนคลายสมองให้ตัวเอง

เป็น 10 วิธีที่ทำไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ? สามย่านมิตรทาวน์ อยากให้เพื่อนๆ ที่กำลังประสบปัญหาจากการทำงานหนัก และสมองแทบไม่ได้พักผ่อน ลองไปนำใช้ทำดูเพื่อเพิ่มพลังให้สมองกลับมามีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงานต่อไป และอีกสิ่งสำคัญที่ควรทำควบคู่กัน คือ ออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอ พร้อมรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ถ้าเพื่อนๆ ทำได้รับรองมีไอเดียล้ำๆ อีกมากมาย ให้เอาไปใช้ในการทำงานอีกแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรุงเทพธุรกิจ