เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะอยากรู้ความคืบหน้าโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) ที่ สามย่านมิตรทาวน์ เคยนำมาเล่าให้ฟังไปแล้วก่อนหน้านี้แน่ๆ เพราะถือเป็นโครงการนำร่องในการเปิดประเทศ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แม้ว่าตลอดระยะเวลาของการจัดทำโครงการจะมีปัญหาให้ต้องแก้ไขกันเป็นระยะๆ แต่ทุกอย่างก็ยังเดินหน้าไปได้ด้วยดี
จนถึงวันนี้ก็ผ่านไปกว่า 1 เดือนครึ่งแล้วสำหรับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ หลังจากเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งภาพรวมของโครงการถือว่าสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี โดยเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) มีการรายงานภาพรวมของโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 – 31 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้รับเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 829 ล้านบาท มีเงินหมุนเวียนและก่อให้เกิดรายได้ต่อระบบเศรษฐกิจ คิดเป็นมูลค่า 1,925 ล้านบาท ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินตอบแทนจ้างงาน 210 ล้านบาท จาก จำนวนการจ้างงาน 2,719 คน หรือมีมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 816 ล้านบาท) รายได้ภาษี 87 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม -15 สิงหาคม 2564 มีนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตสะสมแล้ว 21,336 คน และมียอดจองห้องพักระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2564 รวม 382,078 รูมไนท์ (คืน) แบ่งเป็นยอดจองของเดือนกรกฎาคม 190,843 รูมไนท์(คืน) คิดเป็น 48% ยอดจองเดือนสิงหาคม 160,067 รูมไนท์ (คืน) คิดเป็น 41% และยอดจองเดือนกันยายนจำนวน 31,168 รูมไนท์ (คืน) คิดเป็น 8%
สำหรับจำนวนเที่ยวบินที่มีการบินเข้าจังหวัดภูเก็นในช่วงเวลาดังกล่าวมีทั้งหมด 8 เที่ยวบิน แบ่งเป็น การบินไทย 2 เที่ยว กาตาร์แอร์เวย์ 2 เที่ยว เอมิเรท 1 เที่ยว เอทิหัต 1 เที่ยว สิงคโปร์แอร์ไลน์ 2 เที่ยว และเที่ยวบินส่วนตัว 1 เที่ยว โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 14 สิงหาคม 2564 มีจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมจำนวนทั้งสิ้น 20,727 คน และเหลืออยู่ในขณะนี้ 6,672 คน ซึ่งในจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมทั้งหมด แบ่งเป็น
1.สหรัฐอเมริกา 2,759 คน
2.อังกฤษ 2,712 คน
3.อิสราเอล 2,250 คน
4.เยอรมนี 1,617 คน
5.ฝรั่งเศส 1,607 คน
6.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 775 คน
7.สวิสเซอร์แลนด์ 467 คน
8.เนเธอร์แลนด์ 446 คน
9.ออสเตรเลีย 361 คน
10.คูเวต 327 คน
นอกจากจะท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตแล้ว นักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีจุดหมายปลายทางหลังจากอยู่ในจังหวัดภูเก็ตครบ 14 คืน ได้แก่
1.กรุงเทพมหานคร
2.สุราษฎร์ธานี
3.เชียงใหม่
4.ประจวบคีรีขันธ์
5.ชลบุรี
เพื่อนๆ รู้มั้ยว่า จากการสำรวจความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวในโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์พบว่า กว่า 85% มีความพึงพอใจ 61% เดินทางกลับประเทศต้นทาง
35% เดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่นๆ ในประเทศ จุดหมาย ปลายทางที่คนส่วนใหญ่ไป คือ กทม. และเชียงใหม่ 54% เดินทางมาเพื่อการพักผ่อน (29% เพื่อเยี่ยมครอบครัว / เพื่อน)
55% ทราบโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จากโซเชียลมีเดีย 84% พึงพอใจมากที่สุด ในอัธยาศรัยไมตรีของคนภูเก็ต และ 85% พึงพอใจมากที่สุดในคุณภาพและการบริการของโรงแรม
จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้ ศบค. ออกมาประกาศโครงการเชื่อมต่อจังหวัดนำร่อง 7+7 คือ อยู่ในจังหวัดภูเก็ต 7 วัน และไปในพื้นที่อื่นๆ ได้อีก 7 วัน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา โดยโครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางต่อไปได้ หลังจากอยู่ในจังหวัดภูเก็ตครบ 7 วัน และไปต่ออีก 7 วันที่เหลือ คือ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) จังหวัดกระบี่ (เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เล) และจังหวัดพังงา (เขาหลัก เกาะยาว เกาะยาวใหญ่) เป็นต้น หากตรวจคัดกรองโควิด-19 แล้วไม่พบว่าติดเชื้อ
สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่อยากไปเที่ยวในจังหวัดดังกล่าวก็ควรปฏิบัติตามขั้นตอนของแต่ละจังหวัดอย่างเคร่งครัด แต่เนื่องจากเราอาศัยอยู่ในพื้นที่สีแดงเข้มจะไปจังหวัดไหนก็ต้องกักตัว 14 วัน ทางที่ดีรอสถานการณ์คลี่คลายแล้วค่อยเก็บกระเป๋าไปเที่ยวจะสะดวกกว่า อดทนอีกนิดเดี๋ยวเราก็จะได้ไปเที่ยวกันแล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) และกรุงเทพธุรกิจ
