เข้าสู่ช่วงฤดูฝนแล้ว เพื่อนๆ ก็ต้องดูแลสุขภาพกันเพิ่มมากขึ้น เพราะในฤดูฝนนี้อาจจะมีความเสี่ยงเป็นโรคหวัดได้มากขึ้น และที่สำคัญการไม่ป่วยในช่วงนี้จะดีที่สุด เพื่อลดภาระการทำงานของเจ้าหน้าบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องทำงานหนักอย่างมากกับการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 และเพื่อให้เพื่อนๆ มีสุขภาพแข็งแรงมากขึ้นห่างไกลจากหวัด สามย่านมิตรทาวน์ มี 7 วิธีในการสร้างภูมิคุ้มกันต้านหวัด จาก “โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์” ที่สามารถทำกันได้แบบง่ายๆ มาดูกัน
1.ควรรับประทานผักและผลไม้ ที่หลากหลายในปริมาณเหมาะสมในทุกวัน เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินซีและมีใยอาหารเพียงพอเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย
2.การดูแลน้ำหนักก็สำคัญเช่นกันโดยควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะมีการศึกษาพบว่า ผู้มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน (BMI มากกว่า 22.9 kg/m2) มีโอกาสป่วยเป็นหวัดได้นานกว่าผู้มีน้ำหนักปกติ 1.5 เท่า และมีความเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อหวัด รวมถึงมีความเสี่ยงอาการข้างเคียงมากกว่า
3.ควรล้างมือก่อนปรุงอาหาร และก่อนรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกเข้าสู่ร่างกาย ซึ่งการล้างมือบ่อยๆ ก็เป็นผลดีป้องกันโรคต่างๆ ด้วย
4.ควรออกกำลังกายมากกว่า 30 นาทีต่อวัน เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของเลือด ทำให้เม็ดเลือดขาวเก็บกินสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายได้มากขึ้นลดการเป็นหวัด รวมถึงทำให้ร่างกายแข็งแรงและสดใสมากขึ้น
5.ควรนอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อลดความเครียด ความกังวล โดยเมื่อหลับร่างกายจะหลั่งฮอร์โทนเมลาโทนิน ที่เหมือนกับนาฬิกาของร่างกาย ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน
6.ควรที่จะหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ ที่เป็นสาเหตุการเกิดโรคต่างๆ ตามมามากมาย
7.ควรตรวจสุขภาพเป็นประจำและฉีดวัคซีนตามคำแนะนำของคุณหมอ ข้อเสริมเลยว่า วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก็มีความจำเป็นสำหรับเพื่อนๆ ควรฉีดกันเป็นประจำทุกปี
แต่หากเพื่อนๆ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องออกไปทำงานและต้องเจอฝนบ่อยๆ จนเป็นหวัด และมีไข้ตามมา ก็มีอีก 10 ข้อควรระวังและไม่ควรทำเมื่อเป็นไข้จาก “วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร” เพื่อให้เพื่อนๆ หายป่วยได้เร็วขึ้นอย่างแรกคือ
1.ห้ามกินอาหารย่อยยาก โดยเฉพาะอาหารที่มีไขมัน เพราะทำให้ร่างกายอ่อนเพลียจากการย่อยอาหาร และไขมันทำให้ร่างกายระบายความร้อนได้ยาก อีกทั้งการกินอาหารไขมันมากๆ ก็ไม่ดีต่อสุขภาพในระยะยาว
2.ห้ามกินอาหารรสจัด เช่น เผ็ด เปรี้ยว เค็ม เพราะอาหารรสจัด จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะหวงน้ำ ปัสสาวะน้อย และสีเข้ม เกิดความร้อนในร่างกายสูงขึ้น และอักเสบรุนแรงขึ้น
3.ห้ามดื่มน้ำหวาน เพราะทำให้มีเสมหะเหนียว และภูมิคุ้มกันมีประสิทธิภาพกำจัดเชื้อโรคลดลง แบบว่าเมื่อลดหวาน จะลดโรคต่างๆ ได้
4.ห้ามดื่มสุราหรือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะทำให้ร่างกายยิ่งร้อนมากขึ้น
5.ห้ามดื่มน้ำน้อย เพราะน้ำเป็นสิ่งสำคัญสุดในการลดความร้อนของร่างกาย และช่วยขับของเสีย ความร้อนออกมาทางเหงื่อ และปัสสาวะช่วยให้ไข้ลดลงไวขึ้น
6.ห้ามนอนห้องแอร์ หรือเปิดปัดลมเป่าหน้า เพราะทำให้ทางเดินหายใจแห้ง และเกิดการอักเสบได้ง่าย
7.ห้ามนอนในที่อับชื้น เพราะจะหายใจไม่สะดวก มีโอกาสติดเชื้อแทรกซ้อนและร่างกายระบายความร้อนไม่ดี
8.ห้ามห่มผ้าหนาเกินไป เพราะร่างกายจะระบายความร้อนไม่ดี แต่หากเรารู้สึกหนาว ก็สามารถห่มผ้าบริเวณอกและคอให้อุ่นได้
9.ห้ามทาโลชั่นหรือเครื่องประทินผิว เพื่อช่วยให้ผิวหนังระบายความร้อนได้ดี
10.ห้ามอาบน้ำตอนไข้สูงและมีอาการหนาวสั่น เพราะทำให้หนาวมากขึ้น รูขุมชนปิด และร่างกายระบายความร้อนภายในออกไม่ดี ไข้จะกลับมาขึ้นสูงได้ จึงควรใช้การเช็ดตัวแทน และเมื่อไข้ลด ไม่มีอาการหนาวสั่นก็สามารถอาบน้ำได้ตามปกติ
เป็นอีกวิธีสำหรับเพื่อนๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้ในการดูแลตัวเองช่วงหน้าฝน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงมากขึ้น จะได้ไม่เป็นหวัด และจะช่วยป้องกันโรคต่างๆ ที่จะตามมาได้ อีกหนึ่งสิ่งสำคัญเมื่อมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้านก็อย่าลืมสวมใส่หน้ากากอนามัย และล้างมือบ่อยๆ เพื่อดูแลตัวเองและคนรอบข้างปลอดภัยไปพร้อมกัน สามย่านมิตรทาวน์ อยากเห็นทุกคนแข็งแรงๆ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ และวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร
