ช่วงที่เราต้องอยู่บ้านกันนานๆ แบบนี้ เพื่อนๆ หลายคนก็หันมาแต่งบ้านให้สวยงามน่าอยู่กันมากขึ้น ซึ่งนอกจากจะแต่งบ้าน และทำความสะอาดแล้ว การทำบ้านให้มีกลิ่มหอม เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนก็ทำเช่นกัน เพราะถ้าบ้านสะอาดแถมยังมีกลิ่นหอมด้วย บอกเลยน่าอยู่มากๆ แต่ถ้าบ้านของเพื่อนๆ คนไหนยังมีมีกลิ่นอับอยู่และอยากทำให้บ้านหอมๆ สามย่านมิตรทาวน์ มีเคล็ดลับมาฝาก

1.Big Cleaning Day
ขั้นตอนแรกของการทำให้ห้องต่างๆ ของบ้านหอมสดชื่น ก็ต้องเริ่มจากการทำความสะอาดแบบ Big Cleaning Day นี่แหละไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดมุมต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ ตู้ ใต้เตียง ใต้บันได หรือแม้แต่หลังตู้ ที่เพื่อนๆ อาจจะละเลยมานาน ซึ่งนอกจากบ้านจะสะอาดแล้ว ยังถือเป็นโอกาสที่เพื่อนๆ จะได้ทิ้งของที่ไม่จำเป็นออกไปให้มากที่สุดอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น กระดาษ กล่องลัง ถุงพลาสติก หรือถุงกระดาษที่เก็บเอาไว้แล้วไม่ได้ใช้ กระปุกครีม หรือแม้แต่ของใช้ภายในห้องที่หมดอายุหรือใช้หมดแล้วอีกด้วย

2.ทำให้อากาศถ่ายเท
บางครั้งการที่ห้องของเพื่อนๆ มีกลิ่นเหม็นอับ แม้จะใช้สเปรย์ปรับอากาศกลิ่นก็ยังไม่หายไป 100% ส่วนหนึ่งของปัญหานี้อาจมีสาเหตุมาจากอากาศภายในบ้านไม่ถ่ายเท ดังนั้น ทุกวันหยุดพักผ่อนเพื่อนๆ ควรเปิดหน้าต่างหรือเปิดประตูบ้าง เพื่อให้ลมสามารถพัดเข้ามาถ่ายเทอากาศเก่าออกไป แล้วรับอากาศที่สดชื่นเข้ามาแทน แต่ข้อควรระวังคือ อย่าเปิดนานเกินไป เพราะอาจมีปัญหาเรื่องฝุ่นที่เข้ามาได้

3.ดับกลิ่นภายในห้อง
อีกหนึ่งเทคนิคในการทำให้ห้องหอม สำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาดูแลบ้าน นั่นก็คือ การใช้อุปกรณ์ดับกลิ่น เช่น 1. สบู่ก้อน นำมาขูดเป็นเส้นบางๆ แล้วนำมาใส่แก้ววางไว้ตามจุดต่างๆ 2. เบกกิ้งโซดา นำไปใส่ขวดหรือผ้าบางๆ แล้วนำไปวางตามจุดที่มีกลิ่นเหม็นอับ 3. กากกาแฟ นำไปใส่ถ้วยเล็กๆ แล้วนำไปวางตามมุมของตู้หรือมุมห้อง 4. ถ่านหุงต้ม นำถ่านไปใส่ไว้ในผ้าบางๆ หรือถุงผ้าตาข่าย นำไปวางบริเวณจุดที่มีกลิ่มอับ 5 .น้ำมะนาว นำผ้าชุบน้ำอุ่นผสมกับน้ำมะนาวไปเช็ดตามบริเวณต่างๆ

4.ปลูกต้นไม้ในห้อง
การปลูกต้นไม้ไว้ในบ้านถือเป็นอีกหนึ่งวิธีในการเพิ่มกลิ่นหอมที่จากธรรมชาติให้กับบ้าน นอกจากนี้ ยังช่วยฟอกอากาศภายในบ้านให้บริสุทธิ์อีกด้วย ซึ่งต้นไม้ที่นิยมนำมาปลูกกันในบ้าน ได้แก่ พลูด่าง ลิ้นมังกร เดหลี เขียวหมื่นปี มอนสเตร่า ไทรใบสัก ยางอินเดีย เงินไหลมา เฟิร์นบอสตัน ว่านหางจระเข้ และตีนตุ๊กแกฝรั่ง เป็นต้น และถ้าเพื่อนๆ เลือกกระถางสวยๆ มาใส่ต้นไม้ด้วย บอกเลยบ้านจะน่าอยู่และสดชื่นขึ้นมาทันตาเห็น

5.ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรหอมนาน
บางครั้งกลิ่นเหม็นอับภายในห้องก็มาจากเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายของเรา โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนตากเท่าไหร่ก็ยังมีกลิ่นอับ หนึ่งในวิธีที่แก้ปัญหานี้ได้ คือ การน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่มใหม่ที่มีกลิ่นหอมนาน เพื่อช่วยลดกลิ่นอับชื้น ซึ่งปัจจุบันมีหลายยี่ห้องพัฒนาสูตรในส่วนของการตากผ้าในที่ร่มออกมาจำหน่ายแล้ว ชอบกลิ่นไหนลองเลือกกันดู รับลองผ้าชมสดชื่นแน่นอนแม้ว่าจะตากไม่โดนแดดก็ตาม

6.ใช้เครื่องฟอกอากาศ
การใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อช่วยให้อากาศภายในห้องสะอาดมากขึ้น ก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากเครื่องฟอกอากาศ มีตัวกรองช่วยกำจัดพวกเชื้อโรค และแบคทีเรีย รวมไปถึงฝุ่น PM 2.5 จึงทำให้หลายครอบครัวเลือกที่จะซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้ภายในบ้าน แต่ถึงแม้ว่าจะมีข้อดี สิ่งที่ตามมาหลังจากใช้เครื่องฟอกอากาศ คือ “อากาศแห้ง”

7.ใช้น้ำหอมปรับอากาศ
เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำไม่ยากเลย เพราะปัจจุบันน้ำหอมปรับอากาศมีจำหน่ายในท้องตลาดหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น สเปรย์ปรับอากาศในห้อง เจลปรับอากาศ หรือเจลดับกลิ่น ที่มีทั้งแบบก้อนใหญ่และก้อนกลมเล็กๆ น้ำมันหอมระเหย ที่นิยมใช้ในเตาอโรมาหรือเครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ และน้ำหอมแบบก้านไม้ หรือ น้ำหอม Diffuser เป็นน้ำหอมที่มาแรงและนิยมมากที่สุดในตอนนี้
ได้วิธีทำบ้านหอมกันแล้ว ต่อจากนี้ไปเพื่อนๆ ก็ไม่ต้องกังวลแล้วว่าบ้านจะมีกลิ่นอับชิ้น ชอบวิธีไหนก็ลองไปปรับใช้กันดูนะคะ รับรองบ้านหอมฟุ้งแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : HomeGuru