หน้าฝนแบบนี้เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะคิดถึงสถานที่ท่องเที่ยวแบบๆ ดอกไม้สวยๆ ไอหมอกจางๆ หลังฝนตก ซึ่งบางสถานที่ถ้าได้ขึ้นไปบนดอยบอกเลยหมอกหน้าฝนสวยมาก ไม่เป็นไรเนาะเพื่อนๆ แม้ว่าตอนนี้เราจะยังเดินทางไปท่องเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ภายในประเทศได้ แต่เราก็สามารถปักหมุดไว้ก่อน สถานการณ์คลี่เมื่อไหร่เราก็เก็บกระเป๋าลุยไปเที่ยวกันเลย ส่วนจะมีส่วนที่เขียวๆ ที่ไหนให้คิดถึง และน่าไปเที่ยวบ้าง สามย่านมิตรทาวน์ ไปดูกันเลย
1.เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เป็นหนึ่งในแหล่งที่อเที่ยวที่สามารถไปท่องเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะหน้าหนาวและหน้าฝน ซึ่งความสวยงามของธรรมชาติทั้ง 2 ฤดูนี้ก็มีเสน่ห์ และความสวยงามที่แตกต่างกันไป สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าแวะไปถ่ายรูปเมื่อไปถึงเขาค้อ คือ จุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ จุดชมวิวทะเลหมอกวัดกองเนียน จุดชมวิวกังหันลมเขาค้อ และทุ่งดอกเวอร์บีน่าเขาค้อ นอกจากนี้ ยังมีคาเฟ่น่ารักๆ วิวหลักล้านให้แวะเข้าไปจิบเครื่องดื่มร้อน หรือเย็น ถ่ายรูปสวยๆ อีกหลายแห่งด้วยนะ
2.ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ
ใครที่ชอบไอหมอกหลังฝนจางๆ เบื้องหน้าเต็มไปด้วยทุ่งดอกไม้สีชมพูอมม่วงสดใส บอกเลยที่นี่ตอบโจทย์สุดๆ ที่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ดอกกระเจียว จะทยอยผลิบานเป็นระยะเวลา 2 เดือน ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ถือเป็นไฮไลต์ท่องเที่ยวช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ ไม่ไกลกันมากยังมี ผาสุดแผ่นดิน ลานหินงาม และลานหินหน่อ ให้แวะไปถ่ายรูปสวยๆ อีกด้วย
3.น้ำตกเปรโต๊ะลอซู (น้ำตกรูปหัวใจ) จังหวัดตาก
ถือเป็นอีกหนึ่งน้ำตกของจังหวัดตาก ที่มีความสวยงามมากๆ เพราะน้ำตกเปรโต๊ะลอซู ถือเป็นหัวใจแห่งขุนเขาแห่งนี้ เนื่องจากตัวน้ำตกมีรูปร่างคล้านกับรูปรูปหัวใจ แถมยังมีความสูงมากๆ เพราะหากนำมาเปรียบเทียบกับความสูงของตึกใกล้เคียงกับตึกใบหยกกันเลยทีเดียว ใครที่ชอบเที่ยวน้ำตก ชอบความงามของธรรมชาติแบบนี้ต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 4-5 ชั่วโมง ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมไปกางเต็นท์ นอนพักกลางป่า เพื่อเข้าถึงธรรมชาติอย่างแท้จริง
4.วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะกับการไปฟอกปอดมากๆ สำหรับวังน้ำเขียว เพราะขึ้นชื่อว่าเป็น “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” แถมยังอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ขับไปไปไม้แว้บเดียวก็ถึง เลยทำให้วังน้ำเขียวเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่คนกรุงเทพฯ นิยมเดินทางไปท่องเที่ยว ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในวังน้ำเขียวก็มีทั้ง ผาเก็บตะวัน น้ำตกม่านฟ้า อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง Village Farm & Winery ฟ้าประทาน โรส พาร์ค หรือ วังน้ำเขียวฟาร์ม เป็นต้น
5.บ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่
ใครที่ชอบความเขียว และบรรยากาศสดชื่นๆ ที่มาพร้อมวิวสวยๆ ของทุ่งนาขั้นบันได ต้องที่นี่เลย บ้านป่าบงเปียง เพราะถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทุ่งนาขั้นบันไดสวยสุดๆ นอกจากนี้ ยังมีมีโฮมสเตย์ น่ารักๆ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ไปเยือน ใครที่ชอบความฟินของธรรมาติแบบนี้ต้องไปบ้านป่าบงเปียง จังหวัดเชียงใหม่เลยค่ะ
6.เขาสก เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สำหรับใครที่อยากเสพธรรมชาติแบบเต็มๆ โดยตัดขาดจากโลกการสื่อสาร ต้องที่นี่เลย เพราะเมื่อได้ก้าวเข้าไปภายในเขาสกแล้วเพื่อนๆ จะถูกตัดขาดจากโลกอินเตอร์เน็ตทันที ด้วยความสวยของภูเขาหินปูนที่เรียงรายกันเป็นทิวแถว เลยทำให้เขาสก ได้รับขนานนามว่า กุ้ยหลินเมืองไทย ยิ่งถ้าใครได้ตื่นตอนเช้าจะได้เห็นทะเลหมอกกลางภูเขาหินปูน บอกเลยฟินสุดๆ
7.ภูลังกา จังหวัดพะเยา
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ถ้าใครได้เคยไปเยือนแล้ว อยากกลับไปอีกครั้ง เพราะเป็นอีกหนึ่งสถานที่ชมวิวทะเลหมอกที่วิวหลักล้านจริงๆ โดยเฉพาะวิวที่ร้านกาแฟ Magic Mountain ของภูลังกา โดยเฉพาะช่วงเช้าที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นจากขอบฟ้า หมอกจะเรียงตัวกันสวยงาม ถ้าที่ไม่อยากตืนเช้ามากที่นี่มีภูลังกา รีสอร์ท ให้ได้พักรอชมหมอกยามเช้าด้วยนะ
อยากไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างเพื่อนๆ ชอบที่ไหนปักหมุดไว้เลย สถานการณ์กลับมาปกติให้สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวเมื่อไหร่ เราก็ไปลุยกันเลย
ขอบคุณข้อมูลจาก : travel.trueid และ paiduaykan
