ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงอยู่ขณะนี้ การอยู่บ้านลดการออกไปยังพื้นที่แออัด หรือพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เป็นวิธีที่ป้องกันตนเองได้อย่างดีที่สุด แต่หากคนในบ้านยังต้องออกไปนอกบ้าน คนในบ้านก็คงต้องเว้นระยะห่างกัน และให้ดีก็ควรสวมหน้ากากอนามัย แล้วล้างมือให้สะอาดให้บ่อยๆ ด้วย

สำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้านของตนเอง หรือปัจจุบันเช่าอพาร์ทเมนท์ หรือคอนโดมิเนียมซึ่งอยู่ในย่านใจกลางเมือง หรืออยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัด แล้วมีความคิดว่าอยากจะย้ายออกไปหาบ้านเช่า หรือที่พักอาศัย ซึ่งไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือแวดล้อมด้วยชุมชนหนาแน่น รวมถึงเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาห้องเช่าหรือบ้านเช่าก็ตาม วันนี้ สามย่านมิตรทาวน์ ได้นำเช็กลิสต์การเช่าบ้านอย่างไร? เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ มาฝาก เพราะที่ผ่านมา เราจะพบว่าผู้เช่ามักถูกเอาเปรียบด้วยเงื่อนไข หรือข้อบังคับต่าง ๆ จากผู้ให้เช่า ด้วยความที่ผู้เช่าขาดความรู้หรือไม่ได้ศึกษาข้อกฎหมายมาก่อน
เพื่อนๆ ลองมาดูกันว่า ก่อนเช่าบ้าน หรือแม้แต่ห้องเช่าทั่วไป มีกฎหมายอะไรที่คุ้มครองผู้เช่าบ้าง และมีข้อควรศึกษาและทำความเข้าใจในเรื่องอะไรบ้าง

บ้านเช่า หรือห้องเช่า จะมีประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญาเรื่อง ให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พ.ศ.2562 (สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค) เป็นกฎหมายที่คุ้มครองผู้เช่าและผู้ให้เช่า ซึ่งประกาศนี้จะครอบคลุมธุรกิจให้เช่าอาคารเพื่อที่อยู่อาศัย ที่มีการแบ่งให้เช่าตั้งแต่ 5 ห้องขึ้นไป ซึ่งไม่จำเป็นต้องอยู่ภายในอาคารเดียวกันก็ได้ ห้องที่อยู่ภายใต้ประกาศนี้ ได้แก่ ห้องพัก บ้าน อาคารชุด อพาร์ตเมนต์ แต่ไม่รวมถึง หอพักและโรงแรมที่มีกฎหมายควบคุมแยกต่างหาก ดังนั้น หากเราต้องเช่าบ้าน เราต้องตรวจสอบข้อมูลให้ดี โดยเฉพาะ 4 เช็คลิสต์ที่เอามาฝาก เพื่อนๆ จะไม่เสียเปรียบให้กับผู้เช่า
1.สัญญาระบุรายละเอียดชัดเจน ไม่หมกเม็ด
รายละเอียดในสัญญาควรมีการระบุระยะเวลาให้เช่า ค่าเช่า อัตราค่าสาธารณูปโภค และค่าบริการต่างๆ เพื่อคำนวณค่าใช้จ่ายเบื้องต้นก่อนย้ายเข้ามาอยู่ โดยผู้เช่าต้องดูความสมเหตุสมผลของรายละเอียดเงื่อนไขเพิ่มเติมในสัญญาด้วย เพื่อตรวจสอบความโปร่งใสเบื้องต้นของผู้ให้เช่า เช่น การเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้า การขึ้นค่าเช่าในอนาคต เงื่อนไขการยกเลิกสัญญาเช่า ความคุ้มครองจากเงินประกัน ฯลฯ ซึ่งจุดนี้มีความสำคัญเพราะตามกฎหมายแล้ว ผู้ให้เช่าจะเรียกเก็บค่าเช่าล่วงหน้าและเงินประกันรวมกันแล้วไม่เกิน 3 เดือนของอัตราค่าเช่ารายเดือน

2.ใบแจ้งหนี้ให้ข้อมูลครบถ้วน ตรวจสอบเองได้
ผู้ให้เช่าควรส่งใบแจ้งหนี้ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วันก่อนถึงกำหนดชำระค่าเช่า พร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายรายเดือนและวิธีการคำนวณไว้อย่างชัดเจน เช่น ค่าสาธารณูปโภคและจำนวนหน่วยที่ใช้ ค่าบริการต่างๆ แต่ละเดือน เพื่อให้ผู้เช่าสามารถตรวจสอบเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นและสร้างความสบายใจให้กับทั้งสองฝ่าย โดยผู้ให้เช่าเรียกเก็บค่าน้ำ ค่าไฟ เกินอัตราการใช้งานจริงไม่ได้และไม่มีสิทธิเปลี่ยนแปลงอัตราค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค และค่าบริการต่างๆ ก่อนสัญญาเช่าสิ้นสุด
3.ต้องชัดเจนว่าใครรับผิดชอบซ่อมแซมอุปกรณ์ที่เสื่อมสภาพ
เมื่อมีการเช่าที่อยู่อาศัยเป็นระยะเวลาหนึ่งหรือมีการเปลี่ยนผู้เช่ามาไม่น้อย ย่อมมีการชำรุดสึกหรอของเฟอร์นิเจอร์หรืออุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ โดยความเสียหายนั้นอาจไม่ได้เกิดขึ้นจากการใช้งานของตัวผู้เช่าเอง ซึ่งหากเป็นกรณีนี้ เจ้าของหรือผู้ให้เช่าต้องเปิดใจยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ และมีมาตรการที่ชัดเจน อาทิ ตรวจสอบความเรียบร้อยของเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ต่างๆ และชี้แจ้งให้ผู้เช่าทราบก่อนรับผู้เช่ารายใหม่ หรือให้ผู้เช่าสามารถเข้ามาตรวจเช็กความเรียบร้อยต่างๆ พร้อมกับผู้ให้เช่าได้เพื่อสร้างความเข้าใจที่ตรงกัน

นอกจากนี้ ผู้ให้เช่าควรระบุอย่างชัดเจนว่าความเสียหายประเภทใดจากอุปกรณ์ใดบ้างที่ผู้ให้เช่าจะรับผิดชอบเอง หรือรูปแบบใดที่ผู้เช่าจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้าง ในขณะเดียวกัน ผู้เช่าก็ต้องมีความรับผิดชอบและระมัดระวังเมื่อใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ส่วนตัวและพื้นที่ส่วนกลางเช่นกัน
4.เคารพสิทธิส่วนบุคคล ไม่บุกรุกโดยพลการ
ผู้เช่าและผู้ให้เช่านั้นจำเป็นต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยซึ่งกันและกัน แม้ผู้ให้เช่าจะเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยตรง แต่ผู้เช่าก็มีสิทธิของผู้เช่าด้วยเช่นกัน ผู้ให้เช่าจึงต้องเคารพในสิทธิส่วนบุคคลโดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้เช่า ทั้งนี้ ตามกฎหมายผู้ให้เช่าไม่มีสิทธิเข้าไปตรวจสอบที่พักโดยพลการหรือไม่แจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าและไม่ได้รับอนุญาต ยกเว้นมีเหตุฉุกเฉินที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวมหรือมีผลกระทบต่อผู้ให้เช่าหรือผู้เช่ารายอื่นเท่านั้น นอกจากนี้ แม้ผู้เช่าจะไม่จ่ายค่าเช่าตามกำหนด ผู้ให้เช่าก็ไม่มีสิทธิปิดกั้นไม่ให้ผู้เช่าเข้าใช้และไม่สามารถบุกรุกเข้าไปเพื่อยึดทรัพย์สินหรือขนย้ายทรัพย์สินของผู้เช่าโดยไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน

หากเพื่อนๆ จะเช่าบ้านพัก หรือห้องพัก ก็อย่าลืมตรวจสอบเอกสารสัญญาให้ละเอียดถี่ถ้วน และตรวจเช็กข้อมูลตามที่สามย่านมิตรทาวน์นำมาแนะนำกัน เพื่อการพักอาศัยจะได้ไม่มีปัญหา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ดีดีพร็อพเพอร์ตี้