เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด มีการรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.3 ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมด จำนวน 5,000,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท สีลม คอร์ปอเรชั่น (SILOM) รวมถึงรับโอนสิทธิในการได้รับเงินตามตั๋วสัญญาใช้เงินจากผู้ถือหุ้นเดิม SILOM ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,090 ล้านบาท

นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ธุรกิจมีอัตราการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน บริษัทจึงได้มีการใช้งบลงทุนซื้อทรัพย์สินอาคารมิกซ์ยูสบริเวณหัวมุมถนนสีลมตัดถนนพระราม 4 พื้นที่ก่อสร้าง (AUM)รวม 49,602 ตารางเมตร ประกอบด้วย พื้นที่อาคารสำนักงาน และพื้นที่ค้าปลีกสูง 22 ชั้น และชั้นใต้ดิน 2 ชั้น เพื่อนำต่อยอดธุรกิจในเครือ เนื่องจากบริษัทมีความพร้อมในด้านการลงทุน ประกอบกับในช่วงนี้ถือเป็นจังหวะที่เหมาะสมที่จะขยายการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพสูง
สำหรับแนวทางการพัฒนาที่ดินผืนดังกล่าว (แปลง โรบินสัน สีลม) จะถูกพัฒนาให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำที่มีความทันสมัย เพื่อเพิ่มความขีดความสามารถของบริษัทในการให้บริการแก่ผู้เช่ากลุ่มองค์กรชั้นนำที่ต้องการพื้นที่สำนักงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันบนทำเลใจกลางแหล่งธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ โดยการลงทุนเชิงกลยุทธ์ในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มสัดส่วนของรายได้ประจำ (Recurring Income) ซึ่งจะทำให้ FPT พร้อมรับมือกับความท้าทายและความไม่แน่นอนต่างๆที่อาจเกิดขึ้นในอนาค

นอกจากนี้ การลงทุนดังกล่าวยังจะช่วยสร้างการเติบโต และกระจายความเสี่ยงให้แก่พอร์ตโฟลิโอของกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม ภายใต้การบริหารจัดการของ เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) ที่ปัจจุบันมีอาคารสำนักงานเกรด A ในย่าน CBD ของกรุงเทพฯรวม 5 อาคาร ประกอบด้วย อาคารมิตรทาวน์ ออฟฟิศ ทาวเวอร์, อาคาร เอฟวายไอ เซ็นเตอร์, อาคารโกลเด้นแลนด์, อาคารสาทรสแควร์ และ อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์
ด้านนายวิทวัส คุตตะเทพ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายโครงการเชิงพาณิชยกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเข้าซื้อทรัพย์สินที่มีศักยภาพในครั้งนี้ ก็เพื่อนำมาพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งแนงทางการดำเนินธุรกิจดังกล่าวนับเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มพื้นที่ให้บริการได้มากกว่า 49,000 ตร.ม. ในอนาคต

ทั้งนี้ เบื้องคาดว่าโครงการบริเวณหัวมุมถนนสีลม-พระราม4 จะปรับปรุงแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 4/2565 และเมื่อพัฒนาแล้วเสร็จจะทำให้บริษัทมีพื้นที่ภายใต้การบริหารจัดการรวมทั้งสิ้นประมาณ 260,000 ตร.ม.