ใกล้จะได้รับวัคซีนกันแล้วสำหรับกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง ซึ่งในด้านของความปลอดภัยก็มั่นใจได้เลย เพราะวัคซีนที่ประเทศไทยจัดหาในระยะแรก ทั้งแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวดมีผลการศึกษาด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานสากล ผ่านข้อกำหนดขององค์กรอนามัยโลก หลังการใช้ในวงกว้างไม่พบอาการข้างเคียงรุนแรง

นพ.นคร เปมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัดชีนแห่งชาติ ระบุว่า วัคชีนโควิด -19 ที่ประเทศไทยจัดหาในระยะแรก 2 ชนิด ทั้งจากแอสตร้าเชนเนก้าและซิโแวดป็นวัคชีนที่ผลิตด้วยกระบวนการที่มีการควบคุมคุณภาพอย่างเคร่งครัด มีผลการศึกษาในด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นไปตามหลักการสากล
นอกจากนี้ ผลการศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีน ทั้งสองผ่านเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนด (Target Product Profile) และเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานควบคุมกำกับในหลายประเทศทั่วโลก โดยในส่วนของวัดชีนจากแอสตร้าเชนเนกา ได้รับการรับรองจาก Emergency Use Listng (EUL) ขององค์การอนามัยโลกแล้วเช่นเดียวกับวัดชีนของไฟเชอร์/ไบโอเอ็นเทค
สำหรับกลุ่มบุคคลที่จะได้รับวัคชีนโควิด-19 ในระยะแรก ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ บุคลากรด้านสาธารณสุขทั้งภาครัฐและเอกชน ,บุคคลที่มีโรคประจำตัว ,ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสกับผู้ป่วยโรคโควิด-19
ขอบคุณข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข