อากาศหนาวที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมกราคมว ถือเป็นอีกปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยและทุกคนต้องเตรียมรับมือ นอกจากสภาพอากาศที่หนาว สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การเกิดฝุ่นละออง PM2.5 หรือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน มีขนาดเล็กกว่า เส้นผมมนุษย์ถึง 25 เท่า ซึ่งอาจจะมีปริมาณฝุ่นสูงเกินมาตรฐานในประเทศไทยหลายพื้นที่ โดยเมื่ออยู่ในระดับสูงจะมีผลต่อสุขภาพและอาการเจ็บป่วยตามมาได้
และเพื่อป้องกันสุขภาพให้แข็งแรง สามย่านมิตรทาวน์ เลยมีเคล็ดลับการดูแลสุขภาพ เพื่อเป็นแนวทางป้องกันฝุ่น จากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขมาฝากทุกคน จะได้นำไปใช้ เพื่อดูแลตัวเลขและคนที่คุณรัก ส่วนจะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ข้อแรก การตรวจสอบสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 ได้ทุกวันที่ “Air4Thai หรือ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” พร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันตนเอง โดยเพื่อนๆ หรือคนทำงานที่อยู่ในที่เสี่ยง ควรใช้แนวทางป้องกันไว้ก่อน ไม่ให้ฝุ่นเข้าสู่ร่างกายและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ข้อสอง ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง แต่ถ้าจำเป็นต้องออกจากบ้านให้สวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากาก N95 โดยเลือกหน้ากากให้เหมาะสมกับลักษณะงานหรือกิจกรรมของผู้สวมใส่ มีขนาดที่เหมาะสมกับใบหน้า หน้ากากต้องได้มาตรฐาน สะอาด ไม่มีกลิ่นผิดปกติหรือฉีกขาด ต้องครอบจมูก และปาก สายคล้องหรือสายรัดศีรษะต้องอยู่ในสภาพที่ดี

ข้อสาม ควรงดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมอย่างหนักกลางแจ้ง
ข้อสี่ ควรดูแลสุขภาพตนเองให้แข็งแรง ไม่สูบบุหรี่ และดื่มน้ำสะอาด วันละ 8 – 10 แก้ว เพื่อช่วยขับสารพิษต่าง ๆ ออกจากร่างกาย และสังเกตอาการผิดปกติของร่างกายและคนในครอบครัว
ข้อห้า ทุกคนร่วมมือลดกิจกรรมที่ทำให้เกิดฝุ่น PM2.5 เช่น งดการเผาขยะ ลดการจุดธูป ใช้รถส่วนตัวให้น้อยลง หันมาเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า เพื่อเป็นการลดปริมาณค่าฝุ่น และช่วยให้เรามีอากาศที่สะอาดขึ้น

เป็น 5 ข้อที่ทุกคน สามารถร่วมมือ ร่วมใจลดฝุ่นกันให้ได้สำเร็จ หรือ การหันมาปลูกต้นไม้ดูดสารพิษในบ้าน ก็จะช่วยลดฝุ่นได้เช่นกัน หากใครที่ยังคิดว่า เรื่องฝุ่นนี้ไม่น่ากังวลนัก ก็อยากให้ทบทวนใหม่ เพราะฝุ่นจิ๋วนี้ มีผลกระทบต่อสุขภาพของทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง เช่น เด็กเล็ก โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่ง “สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์” ระบุว่า เด็กมีอัตราการหายใจถี่กว่าผู้ใหญ่ ทำให้จะสูดอากาศที่มีมลพิษไปมากกว่า อีกทั้งหากฝุ่นละลองขนาดเล็ก ผ่านเข้าไปในสมองของเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่อยู่ในครรภ์มารดา ฝุ่นละอองนี้จะทำลายเซลล์สมอง ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทางสติปัญญา มีผลต่อการเรียนรู้ในระยะยาวด้วย
นอกจากนี้กลุ่มที่ต้องระวังยังเป็น ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ หอบหืด เยื่อบุตาอักเสบ หัวใจและหลอดเลือด อาจได้รับผลกระทบทำให้เกิดการเจ็บป่วยหรือทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น จึงต้องเฝ้าระวังอาการตนเอง หากมีอาการไอ แน่นหน้าอก วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ผื่นแดง หรือมีอาการผิดปกติทางร่างกายอื่น ให้รีบไปพบแพทย์ทันที

อากาศที่ดีเป็นสิ่งสำคัญของร่างกายเพื่อนๆ ทุกคนเลย ดังนั้น อย่าลืมก่อนออกจากบ้านต้องเช็คสภาพอากาศให้ดีและป้องกันตัวเองอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง อย่าลืมสวมใส่หน้ากาก N95 “เราต้องรอดและแข็งแรงไปพร้อมกัน”
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข และ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณุข