ขยายเวลาให้ได้เที่ยวแบบสบายกระเป๋าไปจนถึงต้นปัหน้าแล้ว สำหรับโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ใครที่ลงทะเบียนสำเร็จก็รีบหาวันว่างไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆได้แล้ว จะเป็นภูเขา หรือทะเล ก็เลือกกันได้ตามใจชอบ
เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมาศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบขยายเวลามาตรการเราเที่ยวด้วยกันและมาตรการกำลังใจ ที่จะสิ้นสุด วันที่ 31 ตุลาคม 2563 ขยายเวลาเป็นวันที่ 31 มกราคม 2564 และขยายเวลาการเบิกจ่ายงบประมาณมาตรการนี้ไปถึงวันที่ 31 มีนาคม 2564
นอกจากนี้ ยังอนุมัติให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน สามารถใช้บริการโรงแรมที่พัก และใช้ E-Voucher สำหรับค่าสนับสนุนอาหาร ค่าเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว ค่าสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) ในจังหวัดภูมิลำเนาตามทะเบียนบ้านได้
ตลอดระยะกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 มีประชาชนสนใจลงทะเบียนในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน 4.76 ล้านราย ลงทะเบียนสำเร็จ 4.51 ล้านราย มีโรงแรมสนใจเข้าร่วมโครงการ 6,815 แห่ง กระจายตัวอยู่ครบในทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีโรงแรมที่สนใจเข้าร่วมโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ กระบี่ ภูเก็ต และประจวบคีรีขันธ์
ส่วนโรงแรมเมืองรองที่เข้าร่วมโครการมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ เชียงราย จันทบุรี น่าน นครศรีธรรมราช และตราด โดยขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิ์จองโรงแรมแล้วประมาณ 391,731 ห้อง จ่ายเงินจองเรียบร้อยแล้ว 388,461 ห้อง และโรงแรมที่มีการจองห้องพักแล้วมีจำนวน 3,465 แห่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งของจำนวนโรงแรมที่สนใจเข้าร่วมโครงการ ราคาห้องพักเฉลี่ยต่อคืนอยู่ที่ 2,950 บาท
ใครที่กำลังเบื่อๆอยากไปเที่ยว แต่ยังไม่ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันก็อย่างช้า เพราะอย่างน้อยเราก็ประหยัดค่าที่พัก อาหาร เครื่องดื่ม รวมไปถึงตั๋วเครื่อบินได้ถึง 40% ดีกว่าจ่ายเงินเองทั้งหมด
