ถือเป็นธุรกิจที่มาแรงแซงทางโค้งธุรกิจอื่นๆจริงๆ สำหรับธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้ง (Cloud Computing) หลังจากองค์กรต่างๆ มีการขยายตัว ทำให้ต้องหาพื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลต่างๆ เพิ่มขึ้น และยิ่งล่าสุดมีการระบาดขอโรค COVID-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป คือ หันมาให้ความสนใจโลกออนไลน์มากขึ้น จากเหตุและผลดังกล่าวยิ่งหนุนให้ธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้ง ขยายตัวสวนทางกับธุรกิจอื่นๆ
เพื่อนๆรู้หรือเปล่าว่า ภาพรวมธุรกิจคลาวด์ เซอร์วิสในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมามีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว ซึ่งหากนับตั้งแต่ปี 2551 – 2563 จะพบว่ามูลค่าตลาดรวมธุรกิจคลาวด์ทั่วโลกมีอัตราการเติบโตสูงถึง 44 เท่า
จากแนวโน้มที่ดีดังกล่าว ทำให้มีการประเมินว่าธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้ง ทั่วโลกในปี 2563 นี้น่าจะมีมูลค่าตลาดรวมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และยังจะมีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต โดย Gartner บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาด้านไอทีชั้นนำของโลก ประเมินว่าภาพรวมธุรกิจให้บริการคลาวด์ คอมพิวติ้ง ในปี 2562 – 2568 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 21% เนื่องจากความต้องการพื้นที่เพื่อจัดเก็บและจัดการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ที่มีอัตราเติบโตอย่างมาก
นอกจากนี้ การขยายตัวของสังคมออนไลน์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้การใช้งานคลาวด์ คอมพิวติ้ง กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและการทำงานในยุคดิจิทัลที่เป็นเมกะเทรนด์ของโลก โดยมีโรค COVID-19 เป็นปัจจัยเร่งการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เช่น ธุรกิจอี-คอมเมิร์ช, การเรียน และทำงานผ่านระบบออนไลน์
จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้หลายคนมองหาโอกาสที่จะเข้าไปลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีรายได้หลักจากการให้บริการคลาวด์ เซอร์วิส ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้บริการที่มากกว่าการจัดเก็บข้อมูลอย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องมีเซิร์ฟเวอร์ (Serverless) แต่ครอบคลุมถึงระบบประมวลผลข้อมูล ระบบเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์และแอปพลิเคชั่น เพื่อให้บริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตตามความต้องการของผู้ใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา
ขณะเดียวกัน ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการดำเนินธุรกิจ และกำหนดกลยุทธ์องค์กร จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไม “คลาวด์ เซอร์วิส” ถึงเข้ามาแทนที่การลงทุนติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทต่างๆ เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดด้านเครือข่ายและพื้นที่จัดวางเซิร์ฟเวอร์
ที่สำคัญไปกว่านั้น ค่าใช้จ่ายในการดูแล รวมถึงอัพเดตถูกรวมอยู่กับค่าใช้บริการอยู่แล้ว และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะได้รับ คือ ผู้ให้บริการมีรายได้สม่ำเสมอจากค่าบริการสมาชิกแบบรายเดือนหรือ Subscription ทำให้สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องหรือ Recurring Income และเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้อีกในอนาคต เนื่องจากในปัจจุบันธุรกิจคลาวด์ คอมพิวติ้ง มีส่วนแบ่งในตลาดซอฟท์แวร์โดยรวมเพียง 30% เท่านั้น อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่ได้รับผลเชิงบวกจากโรค COVID-19 และมีความโดดเด่นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจและยุค New Normal
ขอบคุณข้อมูลจาก : พรินซิเพิล
