
เป็น Co-learning Space เป็นการผสมผสานจุดเด่นของ Third Place แต่ละประเภทที่คนทำงาน ฟรีแลนซ์ หรือนักเรียน นักศึกษา นิยมเข้าไปใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ห้องสมุด หรือโคเวิร์กกิ้งสเปซแบบเดิมๆ ซึ่งแต่ละประเภทของพื้นที่เหล่านี้ก็จะมีทั้งจุดเด่นและข้อจำกัดที่ต่างกันไป แต่สามย่าน โค-ออป เลือกที่จะหยิบข้อดีของแต่ละโมเดล และแก้ไขข้อจำกัดต่างๆ จนกลายเป็นรูปแบบของ Public Space ที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เคยมีมาก่อนหน้านี้ และยังสอดคล้องไปกับแนวคิดในการตอบแทนคืนให้กับสังคมของโครงการสามย่านมิตรทาวน์
สำหรับจุดเด่นของสามย่าน โค-ออป ที่แตกต่างไปจาก Co-learning Space อื่นๆ มีอยู่ด้วยกัน 5 ข้อหลัก คือ
- เป็นพื้นที่เปิดให้บริการฟรี แบบ 24 ชั่วโมง เพราะที่ผ่านมา ถ้าเป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการทำงาน หรืออ่านหนังสือ จะมีจุดเด่นต่างกัน เช่น บางที่ให้บริการฟรี แต่จำกัดเวลาการให้บริการ เดินทางไม่สะดวก หรือบรรยากาศไม่เอื้อต่อการทำงานหรืออ่านหนังสือ ขณะที่บางพื้นที่ มีทุกสิ่งทุกอย่างเพียบพร้อม แต่ก็ต้องแลกมาด้วยค่าบริการที่สูง หรือมีไว้ให้บริการสำหรับแค่กลุ่มลูกค้าที่สมัครเป็นสมาชิกเท่านั้น แต่สามย่าน โค-ออป เปิดให้ใช้บริการฟรี โดยสามารถรองรับได้กว่า 500 ที่นั่ง และมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างครบถ้วน เพื่อรองรับความต้องการหรือรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันไป โดยวางกลุ่มเป้าหมายที่จะเข้ามาใช้บริการเป็นกลุ่มนิสิต นักศึกษาราว 60% และคนทำงาน สตาร์ทอัพ และฟรีแลนซ์ทั่วไป ประมาณ 40%ดเด่น 2 เรื่อง คือ Knowledge และ Food ภายใต้แนวคิด “คลังแห่งอาหารและการเรียนรู้”
- การดีไซน์พื้นที่อย่างมีเอกลักษณ์ และสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน โดยใช้พื้นที่กว่า 30% ของโซนรีเทล 24 ชั่วโมง หรือราว 1,400 ตารางเมตร จาก 5,000 ตารางเมตร บริเวณชั้น 2 และ 3 มาใช้วิธีดีไซน์แบบ Double Volume Space เพื่อให้กลายเป็นพื้นที่ 3 ชั้น อยู่ภายใน และแบ่งโซนนิ่งพื้นที่ภายใน ตามรูปแบบการใช้งานในแต่ละลักษณะอย่างเหมาะสม จากการไปสำรวจความต้องการของผู้ใช้งานมาโดยตรง เช่น Open Reading Zone สำหรับมานั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือ Private Room ที่จะแบ่งเป็น 8 ห้อง ที่แตกต่างกันไปในแต่ละห้อง สำหรับการนัดประชุม หรือนำเสนองานต่างๆ Sky Reading Zone สำหรับผู้ที่มาคนเดียวและอยากนั่งอ่านหนังสือ หรือทำงานคนเดียว Focus Zone (โซนงดใช้เสียง) เหมาะสำหรับการไปอ่านหนังสือทบทวนก่อนสอบ หรือคนที่ต้องการสมาธิที่ดีในการทำงาน เป็นต้น
- การสร้าง Community และองค์ความรู้ใหม่ๆ สามย่าน โค-ออป ที่ไม่ได้ต้องการเป็นเพียง Space Provider แต่ต้องการสร้าง Learning Engagement เพื่อให้พื้นที่นี้กลายเป็น Knowledge Hub อย่างแท้จริง ผ่านการเติมคอนเทนต์ หรือกิจกรรมต่างๆ เข้ามาในพื้นที่จึงมีความสำคัญ ภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตรทางด้านคอนเทนต์และการจัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ บริษัท ลูกคิด จำกัด (LUKKID Co.,Ltd) และ สถาบันแฮกเกอร์เฮาส์ (Hacker House Institute) โดยเนื้อหาจะเน้นทั้งการทำเวิร์คช็อป, จัดอบรมหรือเทรนนิ่ง งาน Talk & Guidance เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและความรู้ใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากตำราเรียน เช่น เรื่องของ Design Thinking การเขียน Coding หรือการบ่มเพาะกลุ่มสตาร์ทอัพต่างๆ เป็นต้น
- ความมั่นใจในเรื่องระบบ Security ด้วยโลเกชั่นที่เดินทางมาถึงด้วยรถไฟฟ้า MRT สามย่าน และอยู่ด้านหน้าของศูนย์การค้าสามย่าน มิตรทาวน์ ทำให้เข้าถึงได้สะดวกและมีความปลอดภัยสูง รวมทั้งมีพนักงานคอยดูแลความปลอดภัยทั้ง 24 ชั่วโมง ทั้งที่อยู่ภายในสามย่าน โค-ออป เอง รวมทั้งพนักงานรักษาความปลอดภัยของทางศูนย์ฯ เอง และยังมีการติดตั้ง CCTV ไว้ภายในพื้นที่ รวมทั้งยังใช้ระบบ Online ในการลงทะเบียนเข้ามาใช้บริการ ทำให้ทราบว่าผู้ที่เข้ามาใช้บริการอยู่ภายในเป็นใครบ้างแม้ว่าจะเป็น Public Space ก็ตาม เพื่อป้องกันการแฝงตัวเข้ามาของผู้ไม่ประสงค์ดีทั้งหลาย ซึ่งนับเป็นความกังวลอันดับต้นๆ ของผู้ปกครองที่เป็นห่วงบุตรหลานในการไปใช้บริการพื้นที่สาธารณะเหล่านี้
- ความสะดวกสบายที่มากกว่า ทั้งการมี Direct Link ที่เชื่อมมาจาก MRT สามย่าน เข้ามาถึงศูนย์การค้าได้เลย รวมทั้งการที่อยู่ในศูนย์การค้าที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ทั้งร้านอาหารและเครื่องดื่ม ธนาคาร หรือบริการส่งพัสดุต่างๆ ได้ตลอดเวลา ต่างจากโคเวิร์กกิ้งสเปซ หรือพื้นที่สาธารณะแห่งอื่น รวมทั้งการพัฒนา SAMYAN CO-OP Mobile Application ที่สามารถใช้ลงทะเบียนจองการเข้ามาใช้บริการได้ล่วงหน้า รวมทั้งการเช็คจำนวนที่นั่งที่ยังมีเหลืออยู่ หรือการเช็คโปรแกรมหรือกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้น และสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมในกิจกรรมที่มีความสนใจได้ตลอดเวลา